การเมือง
นายกฯ หวังพบ 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง ยันทุกฝ่ายเร่งช่วยเหลือ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยังไม่ได้รับรายงาน ความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือ เด็กนักเรียนและโค้ช 13 คน ทีมหมูป่า ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย แต่เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยกำลังดำเนินการให้ความช่วยเหลืออยู่ ส่วนตัวเชื่อว่ายังมีหวัง ที่จะพบตัว เพราะเราต้องมีความหวัง
ทั้งนี้ ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวกับวงดนตรีนักเรียนที่ชนะการประกวดโครงการ “บทเพลงรักแห่งแผ่นดิน ปีที่ 8” ว่า ขอให้ทุกคนช่วยกันถ่ายทอดกำลังใจให้ 13 นักกีฬาทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่ติดถ้ำหลวง ให้ปลอดภัย ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ทุ่มสรรพกำลังช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งทหารเรือ ทหารบก ตำรวจ ตชด.โดยลงไปทุกหน่วย นั่นคือเหตุผลที่มีทหารไว้ทำอะไร และวันนี้ทราบว่ามีนักดำน้ำจากต่างประเทศอีก 3 คนเข้ามาช่วยเหลือ โดยคนเหล่านี้มีความชำนาญเรื่องการสำรวจถ้ำ เชื่อว่าจะได้รับข่าวดี ทั้งนี้ อย่าเพิ่งท้อถอย มิเช่นนั้นเจ้าหน้าที่จะท้อถอยไปด้วย เราต้องมีความหวัง กำลังใจ และขอพระราชทานพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ช่วยคุ้มครองให้ทุกคนปลอดภัย ซึ่งเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ตนได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช จึงได้กราบขอพรให้เด็กและโค้ชปลอดภัย เพราะถ้ามีความสุข เราต้องสุขด้วยกัน หากทุกข์เราจะทุกข์ด้วยกัน และแก้ความทุกข์ให้เป็นอย่างสุข ทุกอย่างอยู่ที่ใจเรา สิ่งสำคัญคือต้องมีสติ
ด้าน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม เปิดเผยก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่ายังไม่รับรายงานความคืบหน้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับการช่วยเหลือ เพราะตนไม่อยู่ในพื้นที่ แต่ก็ให้กำลังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และรับฟังปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ ส่วนตัวคาดหวังว่าจะเจอทั้ง 13 คน เนื่องจากเวลาผ่านไปหลายวันแล้ว และไม่ได้สั่งการอะไรกับผู้บัญชาการทหารบกเพิ่มเติม แต่ให้ไปรับฟังปัญหา เบื้องต้นอุปกรณ์ลงไปครบหมดแล้ว
มท.1 ยันเดินหน้าทำทุกวิถีทางช่วย 13 ชีวิต หวังวันนี้จะได้รับข่าวดี
พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดารัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทย ระบุว่า เจ้าหน้าที่ยังทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยดำน้ำเข้าไปเป็นระยะ เพื่อเปิดทางให้ ชุดเพิ่มเติมสามารถเข้ามาเสริมกำลังได้ ส่วนปฏิบัติการ ค้นหาทางเข้าแห่งใหม่จากด้านบน ยังพบอุปสรรค เรื่องของหมอกบดบังพื้นที่ แต่จะใช้ชุดปฏิบัติการเข้าไปให้มากที่สุดเพื่อหาช่องทางลงไปภายในถ้ำ
สำหรับเครื่องสูบน้ำในพื้นที่มีจำนวนมาก แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องสภาพอากาศหมุนเวียนภายในถ้ำ จึงทำให้สามารถใช้ได้เพียงเครื่องสูบน้ำไฟฟ้า ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหรือ ปภ.ตั้งสูบอยู่ภายในเพียง 3 เครื่องเท่านั้น และเมื่อ สูบน้ำออกมาได้แล้ว ก็ต้องหาที่พร่องน้ำ ซึ่งถือเป็นอุปสรรคเช่นกัน
พลเอกอนุพงษ์ ยืนยันว่า ยังเดินหน้าทำทุกวิธีทาง และคาดหวังว่า วันนี้จะได้รับข่าวดีโดยเชื่อมั่นว่าทุกคนยังปลอดภัย อย่างไรก็ตามทราบว่าทุกคนเอาใจช่วย "ถ้ามีภัยก็รักกันได้ หมดภัยก็ตีกันต่อ"
พลเอกอนุพงษ์ เปิดเผยด้วยว่า ราชเลขาธิการในพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณฯ ฝากดูแลเรื่องการบริหารจัดการระบบการช่วยเหลือโดยเฉพาะบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง ให้จัดระบบ เพิ่มเติมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขั้นตอนการสกรีนบุคคลเข้าออก หรือผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ให้เข้าไปภายในพื้นที่
พร้อมกันนี้ ฝากสื่อมวลชน ให้นำเสนอข่าวอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่าสื่อมวลชนตั้งใจทำงาน และช่วยกันอธิบายถึงความยากลำบากในการช่วยเหลือ ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ย่อท้อ หน่วยซีล ยังหมุนเวียนเจ้าหน้าที่ช่วยกันทำงานอยู่ตลอด
อ่านเพิ่มเติม
