ธนาคารกลางของฟิลิปปินส์เปิดเผยข้อมูลว่าเงินที่ชาวฟิลิปปินส์ในต่างแดนส่งกลบประเทศในช่วงปี 2017 สูงขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 4.3 มาอยู่ที่ 28,100 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 880,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของฟิลิปปินส์ แม้อัตราการเติบโตจะลดลงจากปี 2016 เนื่องจากราคาน้ำมันโลกตกต่ำในช่วงต้นปี ซึ่งทำให้แรงงานฟิลิปปินส์ในตะวันออกกลางตกงานหรือได้รับค่าตอบแทนต่ำลง

ปี 2017 เงินที่ชาวฟิลิปปินส์กว่า 2,500,000 คนส่งจากตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นจากปี 2016 ร้อยละ 3.4 ขณะที่เงินของชาวฟิลิปปินส์กว่า 3,500,000 คนที่ส่งจากสหรัฐฯ ก็เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 5.5 แม้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมีนโยบายเข้มงวดกับผู้อพยพ

อย่างไรก็ตาม รายได้ที่เติบโตขึ้นโดยแรงงานฟิลิปปินส์ในต่างแดนอาจชะงักลง เนื่องจากวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานของฟิลิปปินส์เพิ่งออกคำสั่งแบนการส่งชาวฟิลิปปินส์ไปทำงานใน คูเวต และเปิดโครงการส่งแรงงานฟิลิปปินส์ในคูเวตกลับประเทศ 10,000 คน โดยวันแรกมีแรงงานฟิลิปปินส์มากกว่า 100 คนเดินทางกลับจากคูเวต ส่วนเที่ยวบินจากฟิลิปปินส์ไปคูเวตมีผู้โดยสารเพียง 30 คนจากปกติมีผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 300 คน

มาตรการแบนการส่งชาว ฟิลิปปินส์ไปทำงานในคูเวตเป็นมาตรการที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ตอบโต้กรณีที่มีแรง งานฟิลิปปินส์เสียชีวิตในคูเวต 7 ราย ในจำนวนนี้ 1 รายเป็นแม่บ้านที่ศพถูกแช่ในตู้เย็นของนายจ้าง ซึ่งท่าทีของรัฐบาลฟิลิปปินส์ในครั้งนี้อาจส่งผลให้จำนวนเงินที่ชาว ฟิลิปปินส์ส่งกลับประเทศลดลง เนื่องจากปัจจุบันมีชาวฟิลิปปินส์ที่ทำงานอยู่ในคูเวตมากกว่า 250,000 คน โดยส่วนมากทำงานอาชีพแม่บ้าน

นายรูเบ็น อาซุนซิออน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคาร Union Bank of the Philippines มองว่า นโยบายใหม่ของรัฐบาลนายโรดริโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์จะทำให้รายได้จากแรงงานในต่างแดนลดลงเพียงชั่วคราว เท่านั้น ไม่น่าจะกระทบต่ออัตราการเติบโตในระยะยาว เพราะชาวฟิลิปปินส์มักหาทางไปประเทศอื่นได้เสมอ โดยนายดูแตร์เตพยายามส่งเสริมให้ชาวฟิลิปปินส์ไปทำงานที่จีนและรัสเซียแทนคูเวต

ชาวฟิลิปปินส์ที่ไปทำงานต่างแดนมากกว่า 10 ล้านคนมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์พอๆ กับรายได้จากเงินที่ต่างชาติจ้าง outsource ในฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ฟิลิปปินส์ขาดดุลการค้ามากขึ้น เพราะรัฐบาลนายดูแตร์เตก็มีโครงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ส่งผลให้ฟิลิปปินส์ต้องนำเข้าเหล็กและเครื่องมือต่างๆ เข้าไปมากขึ้น

ฟิลิปปินส์มีรายได้จากการมีประชาชนส่งเงินกลับประเทศมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของเอเชียรองจากจีนและอินเดีย ทำให้ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้ซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมาก อีกด้วย โดยช่วงครึ่งปีแรกของปี 2017 ชาวฟิลิปปินส์ส่งเงินกลับประเทศด้วยสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะบิทคอยน์ มูลค่าถึง 8,800,000 ล้านดอลลาร์หรือเกือบ 280 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นแรงงานฟิลิปปินส์ในฮ่องกง สิงคโปร์ และออสเตรเลีย

รัฐบาลฟิลิปปินส์เองก็ยังคงมีนโยบายเปิดกว้างสำหรับสกุลเงินดิจิทัลอยู่ โดยให้เหตุผลว่า การส่งเงินกลับประเทศด้วยสกุลเงินดิจิทัลมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการโอนเงินด้วยสกุลเงินทั่วไป ทำให้จำนวนชาวฟิลิปปินส์ที่ซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลเติบโตขึ้นเรื่อยๆ