มหกรรมโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2018 เริ่มขึ้นแล้วในวันนี้ (9 ก.พ.) ที่เมืองพยองชาง เกาหลีใต้ โดยนอกจากการเข้าร่วมโอลิมปิกของเกาหลีเหนือ อีกประเด็นที่เป็นที่จับตามองและวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางก็คือการประท้วงให้ยุติการกินเนื้อสุนัข ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นของเกาหลีใต้
ก่อนหน้านี้รัฐบาลเกาหลีใต้พยายามขอความร่วมมือให้ร้านอาหารที่ขายเนื้อสุนัข โดยเฉพาะในพยองชาง หยุดให้บริการในช่วงการแข่งโอลิมปิก หรืออย่างน้อยก็นำอาหารที่ทำจากเนื้อสุนัขออกจากเมนูชั่วคราว และไม่แสดงป้ายหรือสัญลักษณ์ที่บ่งชี้ว่ามีการขายเนื้อสุนัข เพื่อลดแรงกดดันจากนานาชาติ รักษาภาพลักษณ์ของประเทศ โดยยินดีจ่ายเงินชดเชยให้ในระหว่างที่ต้องปิดร้านชั่วคราว
ชาวเกาหลีใต้ประท้วงต่อต้านการกินเนื้อสุนัข ก่อนที่ประเทศจะเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองพยองชาง 9-25 กุมภาพันธ์นี้
อย่างไรก็ตาม ในบรรดาร้านอาหารที่เสิร์ฟเนื้อสุนัข 12 ร้านในพยองชาง มีเพียง 2 ร้านเท่านั้นที่ให้ความร่วมมือ แต่อีก 10 ร้านยืนยันว่าจะเปิดให้บริการต่อไป และขายเนื้อสุนัขตามปกติ โดยให้เหตุผลว่าลูกค้าส่วนใหญ่ไปใช้บริการที่ร้านเพราะต้องการรับประทานเนื้อสุนัข หากไม่ขายเนื้อสุนัข ก็จะกระทบยอดขายอย่างแน่นอน และการขอให้งดขายเนื้อสุนัข ก็ถือเป็นการล่วงล้ำวิถีชีวิตของชาวเมือง โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลพยายามกระตุ้นให้ร้านขายเนื้อสุนัขเปลี่ยนไปขายเนื้อสัตว์อย่างอื่นแทน แต่ก็พบว่าร้านที่ทำตาม ยอดขายตกลงอย่างเห็นได้ชัด
ร้านขายเนื้อสุนัขในเกาหลีใต้ ส่วนใหญ่นิยมปรุงโดยการต้ม หรือทำเป็นหม้อไฟ
แม้ว่าคนรุ่นใหม่ของเกาหลีใต้จะไม่นิยมกินเนื้อสุนัข เพราะมองว่าสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงน่ารักมากกว่าที่จะเป็นสัตว์ที่จะนำมากินเป็นอาหาร แต่ว่าคนสูงอายุจำนวนมากก็ยังนิยมการกินเนื้อสุนัขอยู่ และในแต่ละปี ก็ยังมีการบริโภคสุนัขกว่า 1 ล้านตัวในเกาหลีใต้ โดยนิยมรับประทานเป็นอาหารประจำฤดูร้อน และเชื่อว่าเนื้อสุนัขสามารถเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายได้
นอกจากเกาหลีใต้ เนื้อสุนัขยังเป็นที่นิยมในหลายประเทศ เช่นจีน เวียดนาม และอินโดนีเซีย