ไม่พบผลการค้นหา
สิ่งที่อูทาดะต่างจากศิลปินหญิงคนอื่นๆ คือ เธอมีทัวร์คอนเสิร์ตน้อยมาก ซึ่งครั้งนี้ทุกองค์ประกอบในโชว์ล้วนตั้งอยู่บนความเรียบง่ายแต่มีรสนิยม

“You are always gonna be my love

Itsuka darekato mata koi ni ochitemo

I'll remember to love you taught me how”

ใครที่มีช่วงเวลาวัยรุ่นหนุ่มสาวในยุคปลาย 90 ถึงต้น 00 ย่อมคุ้นหูเพลง First Love ของ อูทาดะ ฮิคารุ เป็นแน่แท้ แม้ว่าคุณจะไม่ใช่แฟนเพลงญี่ปุ่นก็ตาม

ในตอนนั้นอูทาดะคือนักร้องสาววัยสิบห้าลุคบ้านๆ ที่มิวสิกวิดีโอเชยระเบิด แต่แล้วเธอก็กลายเป็นปรากฏการณ์ของวงการเพลงญี่ปุ่นเมื่อ First Love (1999) ผลงานชุดแรกของเธอมียอดขายราว 8 ล้านแผ่น ถือเป็นอัลบั้มขายได้สูงสุดตลอดกาลของญี่ปุ่นจนถึงปัจจุบัน


ถัดจากนั้นชีวิตของอูทาดะนับว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง เธอมีส่วนร่วมในเพลงของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ จนภายหลังเธอแต่งเนื้อเพลง ทำนอง และเรียบเรียงเพลงเองทั้งหมด

เพลงของเธอมีความหลากหลายมากกว่าเพลงเจป๊อปทั่วไป มีทั้งส่วนผสมของซาวด์อิเล็กทรอนิก อาร์แอนด์บี ฮิปฮอป ไปจนถึงเวิลด์มิวสิก และแม้อูทาดะจะผ่านการหย่าร้างมาแล้วสองครั้ง แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องราวดราม่าอะไร เธอใช้ชีวิตคล้ายกับนามิเอะ อามุโระ ที่สื่อสารกับแฟนเพลงด้วยผลงานมากกว่าเรื่องส่วนตัว

อย่างไรก็ดี สิ่งที่อูทาดะต่างจากศิลปินหญิงคนอื่นๆ คือเธอมีทัวร์คอนเสิร์ตน้อยมาก

ในขณะที่นามิเอะหรืออายูมิ ฮามาซากิ มีคอนเสิร์ตทั่วประเทศทุกปี ตลอดยี่สิบปีในวงการเพลงอูทาดะมีทัวร์คอนเสิร์ตไม่ถึงห้าทัวร์ด้วยซ้ำ! แต่แล้วช่วงต้นปี 2018 เธอก็ประกาศว่าจะทัวร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมจำนวน 12 รอบ ซึ่งถือเป็นทัวร์ครั้งแรกของเธอในรอบ 12 ปี นับจาก Utada United 2006 เมื่อปี 2006

แน่นอนว่าใครๆ ก็อยากดูโชว์ของอูทาดะ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแต่คนญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแฟนเพลงทั่วโลกด้วย อัตราแย่งชิงตั๋วคอนเสิร์ตจึงสูงมิใช่น้อย โดยระบบการขายตั๋วของอูทาดะนั้นใช้วิธี lottery หรือระบบสุ่ม ไม่ใช่การแย่งซื้อกัน พีคไปกว่านั้นคือเพื่อป้องกันการเอาบัตรไปขายต่อแพงๆ คอนเสิร์ตนี้จึงใช้ระบบตรวจหน้าหรือ Face Recognition กล่าวคือเราจะต้องส่งรูปหน้าของเราไปให้ทางผู้จัดคอนเสิร์ต พอถึงวันงานจะมีเครื่องแสกนว่าหน้าเราตรงกับรูปที่ส่งไปหรือไม่ ใช่คนเดียวกันหรือเปล่า ...โอ้โห นี่ดูคอนเสิร์ตหรือเข้าฐานทัพรัฐบาล

01_resize.JPG02_resize.JPG

ส่วนตัวผู้เขียนนั้นมีแต้มบุญได้บัตรคอนเสิร์ตรอบ 5 ธันวาคมที่ Saitama Super Arena บรรยากาศหน้างานก็ง่ายๆ สไตล์อูทาดะ ไม่มีการตกแต่งหรูหราฟูฟ่าอะไรทั้งสิ้น มีเพียงป้ายขาวดำ Laughter in the Dark ซึ่งเป็นชื่อทัวร์ครั้งนี้ให้แฟนๆ ถ่ายรูปด้วย จบ แค่นี้เลย ส่วนของที่ระลึกที่ขายหน้างาน ไม่ว่าจะเสื้อยืด แก้วน้ำ กระเป๋า พวงกุญแจก็ล้วนเป็นธีมสีขาวดำทั้งสิ้น แฟนคลับถึงกับงงว่าทำไมจะต้องธีมไว้อาลัยกันขนาดนี้

03_resize.JPG

คอนเสิร์ตครั้งนี้ยังมีเรื่องน่าตื่นเต้นที่อนุญาตให้คนดูถ่ายรูปและอัดวิดีโอได้ ขอเพียงอย่าให้แฟลช ต้องอธิบายก่อนว่าปกติแล้วมหรสพหรือนิทรรศการศิลปะใดๆ ในญี่ปุ่นจะห้ามถ่ายรูปเกือบ 90% ถ้าใครฝ่าฝืนมีสิทธิถูกเชิญออกจากงานได้ ประเด็นนี้แฟนเพลงวิเคราะห์กันว่าคงเพราะอูทาดะเติบโตในอเมริกาและมีความ ‘ฝรั่ง’ ในตัวพอสมควร เธอเลยทำอะไรที่แตกต่างจากขนบแบบญี่ปุ่นที่ยึดถือกันมา

ในส่วนของโชว์นั้นแน่นอนว่าคนอย่างอูทาดะย่อมไม่เล่นใหญ่แบบโหนสลิงลงมาหรือจุดพลุปุ้งปั้งในคอนเสิร์ต ทุกองค์ประกอบในโชว์ล้วนตั้งอยู่บนความเรียบง่ายแต่มีรสนิยม ไม่ว่าจะไลท์ติ้งในงานที่เน้นสีพื้นเป็นหลัก ไม่ได้วูบวาบจนโดดเด่นเกินไป หรือตัวอูทาดะที่มาชุดเดรสสีดำเรียบๆ (ตลอดคอนเสิร์ตเธอเปลี่ยนชุดเพียง 3 ครั้งเท่านั้น) นอกจากนั้นก็มีวงดนตรีสดและคณะเครื่องสายขนาดย่อม

04_resize.JPG05_resize.JPG
ถึงกระนั้นสิ่งที่ดีที่สุดในคอนเสิร์ตก็ย่อมต้องเป็นตัวอูทาดะเอง

เป็นที่รู้กันว่าบางเพลงของอูทาดะนั้นเสียงสูงและร้องยากมาก (ประมาณว่าถ้าเลือกมาตอนร้องคาราโอเกะจะถูกเพื่อนด่า) โชว์ครั้งนี้เธออาจจะใช้แบ็คกิ้งแทร็คหรือหลบโน้ตสูงบางตัว แต่เรียกได้ว่าเธอพยายามร้องทุกท่อนอย่างสุดความสามารถ และเธอก็ ‘สอบผ่าน’ ทุกเพลง แถมอูทาดะยังสร้างความเซอร์ไพรส์กับคนดูด้วยการแร็ปเพลงสดๆ ในเพลง Too Proud ถือเป็นด้านที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน แม้แฟนคลับจะทราบกันดีว่าดนตรีฮิปฮอปเป็นแนวเพลงโปรดของเธอ

ถึงจะอยู่วงการมายี่สิบปี แต่อูทาดะยังดูมีความเป็นสาวข้างบ้านเหมือนสมัยเดบิวต์ ช่วงพูดคุยกับคนดูเธอก็ยังทำได้เก้ๆ กังๆ เหมือนเคย เธอดูเป็นหญิงสาวธรรมดาที่ไม่มีความเป็นสตาร์อยู่รอบตัวเลย แต่เมื่อเธอร้องเพลงออร่าแห่งศิลปินก็เปล่งประกายทันที

ช่วงที่ผู้เขียนประทับใจเป็นพิเศษคือตอนที่เธอร้องเพลง First Love จากชุดแรก และต่อด้วย Hatsukoi (แปลว่า ‘รักแรก’) จากชุดล่าสุด ราวกับเป็นการเปรียบเทียบมุมมองความรักของเด็กสาววัย 15 กับผู้หญิงคนปัจจุบันที่อายุ 35 และผ่านอะไรมามากมาย

ช่วงสุดท้ายของโชว์ อูทาดะปรากฏตัวด้วยเสื้อยืดสีดำ กางเกงผ้า (ดูเผินๆ เหมือนมาจ่ายตลาดมากกว่าร้องเพลง) พร้อมกับเพลงที่ทุกคนรอคอย นั่นคือ Automatic ซิงเกิ้ลเปิดตัวของเธอ ก่อนจะจบคอนเสิร์ตด้วยเพลง Goodbye Happiness และไม่มีการยิงสายรุ้งหรือกระดาษสีใดๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่อูทาดะทำคือเดินไปยังสามจุดบนเวที ซ้าย-ขวา-กลาง และโค้งให้กับคนดู จากนั้นก็เดินเข้าหลังเวทีไป

มันอาจดูเป็น ‘ท่าจบ’ ที่ไม่ยิ่งใหญ่สมกับนักร้องระดับเธอ ทว่าความง่ายๆ แต่จริงใจนี่เองที่เป็นเหตุผลที่ทำให้คนรักเธอมาตลอดสองทศวรรษนี้