นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขอบคุณประชาชนที่ร่วมด้วยช่วยกัน ผลักดันให้เลิกอุ้มการบินไทย จนรัฐบาลต้องกลับลำ ยอมยกเลิกแผนฟื้นฟูแบบลอยๆ ซึ่งเหมือนการเทเงินทิ้งโดยประชาชนแทบไม่ได้ประโยชน์อะไร ตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ กรณีการบินไทยเป็นตัวอย่างสำคัญแสดงให้เห็นว่า เมื่อปวงประชาร่วมกันส่งเสียงจะมีพลังมากพอ ในการกำหนดทิศทางให้รัฐบาลตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้องได้
พรรคก้าวไกลขอชื่นชมประชาชนทุกคนที่ช่วยกันออกมาส่งเสียงและขอเป็นกำลังใจให้พนักงานการบินไทยทุกคน ขอบคุณสำหรับความทุ่มเทที่ผ่านมารวมถึงอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่นำพาชื่อเสียงมาให้ประเทศของเรา เราเชื่อว่าการบินไทยจะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้และจะประสบความสำเร็จสำหรับอนาคตที่กำลังเริ่มต้นขึ้นนับจากนี้
นายสุรเชษฐ์ ระบุว่า แม้จะเลิกเลิกอุ้มการบินไทยออกไป แต่หุ้นไม่ได้ตก แต่ขึ้นถึง 14.63 เปอร์เซ็นต์ เพราะตลาดจับสัญญาณได้ว่าการบินไทยจะไม่เป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป แต่จะผันตัวมาเป็นเอกชนมากขึ้น อันจะนำมาซึ่งประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ทั้งนี้พรรคก้าวไกลเคยให้คำแนะนำไปก่อนหน้านี้แล้วให้มืออาชีพจริงๆ เข้ามาผ่าตัด ไม่เอาพวกที่เป็นเครือข่ายการสืบทอดอำนาจเข้ามาอย่างเด็ดขาด และต้องไม่มี 'ไอ้โม่ง' มารอฮุบกิจการ แต่ต้องเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาร่วมวงได้อย่างเสรีและเป็นธรรม
นายสุรเชษฐ์ ระบุว่า ในการฟื้นฟูกิจการ จะมีทางออกได้ 3 ทาง ในแง่ของความเป็นเจ้าของการบินไทย อันจะส่งผลต่อการบริหารจัดการในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ (ก) เป็นเอกชนมากขึ้น (ข) คล้ายเดิม และ (ค) เป็นรัฐมากขึ้น พรรคก้าวไกลอยากให้รัฐบาลคิดอย่างรอบคอบ โดยเราเห็นว่ารัฐควรมีความเป็นเจ้าของเพียง 0-25 เปอร์เซ็นต์ เพื่อปราศจากการครอบงำหรือแทรกแซงโดยนักการเมืองหรือทหารการเมือง เราอยากเห็นการบินไทยมีมืออาชีพเข้ามาทำงานแทนเครือข่ายของผู้มีอำนาจ กองทัพ และข้าราชการ จึงจะหลุดพ้นจากวงจรขาดทุน โดยไม่ต้องนำเงินภาษีไปอุ้มอีกต่อไป
"พรรคก้าวไกล จะดูแลการใช้เงินภาษีของพี่น้องประชาชนต่อไปและขอให้ทุกคนช่วยกันในการตรวจสอบการใช้เงินภาษีของพวกเราให้เป็นไปอย่าง คุ้มค่าและโปร่งใส” ดังเช่นที่พวกเราได้ร่วมกันทำสำเร็จแล้วในกรณีของการบินไทย" นายสุรเชษฐ์ ระบุ