"เมื่อวันนั้นมาถึงจุดแตกหักมาถึง เราจะช่วยกันไปปิดถนนราชดำเนินอีก 1 ครั้ง" คำปราศรัยอันร้อนแรงทิ้งท้ายหน้ากองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ของ 'เพนกวิน' พริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศ (สนท.) เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2563

เป็นเสมือนการส่งสัญญาณให้มวลชนแนวร่วมขยับเข้ามาร่วมกิจกรรมขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากยิ่งขึ้น

หลังเปิดเกมคิกออฟ โชว์พลังแฟลชม็อบ จัดชุมนุมใหญ่ครั้งใหญ่นับแต่โรคโควิด-19 คลี่คลายลง ท่ามกลางการต่ออายุการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมาก่อนหน้านี้ 3 ครั้ง เพื่อคงไว้ซึ่งการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า เงื่อนไขที่ทำให้ 'เครือข่ายมวลชน' ต้องออกมาร่วมแสดงพลังกับ สนท. กลุ่มเยาวชนปลดแอก ถูกปลุกด้วยพลังโซเชียลมีเดียในโลกออนไลน์

เป็นการปลุกเร้ามาก่อนมีวิกฤตโควิด-19 เสียด้วยซ้ำ เมื่อหลายสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ระดมพลจุดพลุผ่านกิจกรรมแฟลชม็อบ หลังการยุบพรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2563 

จุดเริ่มต้นไม้แรก คือ แฟลชม็อบ โดย 'นักศึกษา' มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ที่จัดขึ้นเป็นที่แรก เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2563 ภายใต้ชื่อ 'ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม' ที่นำโดย สนท.

ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ออกมาแสดงความไม่พอใจกับการบริหารประเทศของรัฐบาล เริ่มเคลื่อนไหวนอกสภาตามสถาบันการศึกษา คู่ขนานการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสภาในขณะนั้น

เพียงแค่ปลายเดือน ก.พ. ระหว่างวันที่ 24-28 ก.พ. 2563 แฟลชม็อบขับไล่รัฐบาล ได้ถูกจุดขึ้นกระจายไปทั่วประเทศถึง 24 แห่ง

และจุดเดือดที่สุดก่อนมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมโควิด-19

เมื่อคนรุ่นใหม่และภาคประชาชน ร่วมกันระดมมวลชนแสดงพลังครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในภายใต้ชื่อ ‘คืนสู่เหย้า ไม่เอาไอโอ(ชา)’ 

ถึงขั้นที่ 'พริษฐ์' แกนนำ สนท. ระบุทิ้งท้ายในกิจกรรมแฟลชม็อบภาคแรกครั้งนั้นว่า "ผมคิดว่านี่เป็นการปฏิวัติของนักศึกษาและประชาชน”

เมื่อเสียงฝ่ายค้านในสภาไม่มีพลังมากพอที่จะล้มรัฐบาลลงได้ เกมขยับผ่านมวลชนนอกสภาจึงถูกปลุกขึ้นเป็น ภาคสอง กลางศักราช 2563  

โดยหยิบยกเงื่อนไขรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องให้กับประชาชนได้อย่างทั่วถึงและถ้วนหน้า หลังเกิดโควิด-19 ผ่านการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เคอร์ฟิวทั่วราชอาณาจักร 

แม้รัฐบาลจะแก้ไขภาวะโรคระบาดไวรัสดังกล่าวได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ยังสร้างความตื่นตระหนก เพราะปล่อยให้แขกวีไอพี ชาวต่างชาติ ซึ่งติดเชื้อโควิด-19 เดินทางออกจากสถานที่กักกันตัวเองได้ ใน จ.ระยอง

ผนวกกับการที่สองแกนนำกลุ่มเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตยถูกสกัดไม่ให้ประท้วงคัดค้าน พล.อ.ประยุทธ์ ขณะลงพื้นที่ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2563 เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา

กลายเป็นเงื่อนไขหลักที่ เครือข่ายของ สนท. กลุ่มเยาวชนปลดแอก นำชุมนุมครั้งใหญ่ ปลดแอก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม กดดันไปยังรัฐบาลให้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งประกาศใช้มาตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 2563 จนถึงปัจจุบัน

และรัฐบาลเตรียมกำลังต่ออายุการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน ในเดือน ส.ค. นี้ 

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ชี้แจงภายหลังการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็นประธานเมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมาถึงเหตุผลในการต่ออายุการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในภาพรวมของโลก และยังคงมีการระบาดที่รุนแรง รวมทั้งยังมีคนไทยจากต่างประเทศและชาวต่างชาติที่ได้รับการผ่อนผันการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรกันอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการอนุญาตมีการอนุญาตให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเพิ่มเติม

เช่นเดียวกับ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นในการขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่าช่วงนี้จำเป็นต้องมีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปอีก 1 เดือน เนื่องจากสถานการณ์ในแต่ละวันพบผู้ติดเชื้อทั่วโลกเฉลี่ยวันละ 2 แสนคน ประกอบกับช่วงนี้เรามีความจำเป็นต้องเปิดประเทศมากยิ่งขึ้น

"ที่เราต่ออีก 1 เดือนทั้งเดือน ส.ค.นี้ มีเจตนาเพื่อควบคุมโรคโดยบริสุทธิ์ใจเพียงอย่างเดียว และการห้ามการชุมนุมจะไม่ปรากฏใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่การชุมนุมการทางการเมืองต้องปฏิบัติตามกฏหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายปกติ" พล.อ.สมศักดิ์ กล่าว

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ว่า "ผมไม่ได้เอากฎหมายไปยุ่งเกี่ยวกับการชุมนุมอะไรทั้นสิ้นเลย ไม่เกี่ยวเลย เป็นเรื่องของ พ.ร.บ.ชุมนุม มีอยู่แล้ว ผมไม่ต้องไปสั่งการเพิ่มเติม ผมเป็นห่วงกังวลที่จะมีการเคลื่อนไหวเหล่านี้ ก็ได้สั่งการขอให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เห็นใจในบรรดาเด็กๆ ของพวกเรา เยาวชน นิสิต นักศึกษา เป็นห่วงแทนผู้ปกครองเขาด้วย" 

เงื่อนไขที่กลุ่มผู้ชุมนุมที่ปลุกเร้าตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. 2563 บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งล้วนเป็นคนรุ่นใหม่เป็นแกนนำหลักในการขับเคลื่อน คือ 'ยุบสภา-แก้ไขรัฐธรรมนูญ-หยุดคุกคามประชาชน'

จึงคล้ายกับการจุดกระแสแฟลชม็อบภาคแรกเมื่อต้นปี 2563 

"งานใหญ่อีกงาน ถือว่าซ้อมใหญ่ขับไล่เผด็จการ เป็นที่รับรู้โดยทั่วไปว่า หลังการยุบพรรคอนาคตใหม่มหาวิทยาลัยที่รวมคนทั้งนิสิตนักศึกษาและประชาชนได้มากที่สุดแห่งหนึ่งก็คือมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์" อานนท์ นำภา ทนายความศูนย์สิทธิมนุษยชน ประกาศผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2563 

พลังแฟลชม็อบในวันที่ 24 ก.ค. 2563 จึงต้องจับตาอีกครั้ง ภายใต้แฮชแท็ก #ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ที่ ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน 

ส่วน 'พริษฐ์ ชิวารักษ์' ก็ส่งสัญญาณประกาศหน้า บก.ทบ.พร้อมฉีกรูป พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. โดยระบุว่า "ผมเชื่อว่า รัฐบาลนี้จบไม่สวย และอยู่ได้อีกไม่นานอีกแน่นอน"

ยิ่งสถานการณ์ที่การเมืองนอกสภา กำลังจะร้อนแรง

รัฐบาลจึงไม่อาจยกเลิกอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้โดยเร็ววัน เพราะอำนาจพิเศษดังกล่าว สามารถเอาผิดการชุมนุม มั่วสุม การทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัดหรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย

ขณะเดียวกัน เมื่อยังมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อเนื่องอีก 1 เดือน อำนาจของนายกรัฐมนตรี ยังคงเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

เพราะ มาตรา 7 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กำหนดให้อำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งหรือหลายกระทรวง ให้โอนมาเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีชั่วคราว เพื่อให้การสั่งการและการแก้ไขสถานการณ์เป็นไปโดยมีเอกภาพ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

อำนาจต่อรองของรัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาลจึงไม่สามารถไปคานอำนาจเบ็ดเสร็จของนายกรัฐมนตรีในขณะนี้ได้เช่นกัน 

ได้ทั้งปรามม็อบนอกสภา ได้ทั้งยับย้ังอำนาจต่อรองของรัฐมนตรีในหมู่พรรคร่วมรัฐบาล!

• รวมแฮชแท็กพลังม็อบลามทั่วประเทศกดดัน 'ประยุทธ์'

18 ก.ค. 2563

กรุงเทพฯ #เยาวชนปลดแอก อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

19 ก.ค. 2563

เชียงใหม่ #คนเชียงใหม่ไม่ทนtoo ข่วงประตูท่าแพ

อุบลราชธานี #ใครไม่ทนมาเจอกัน  ณ ศาลหลักเมือง

20 ก.ค. 2563

กรุงเทพฯ อานนท์ นำภา นำชุมนุม หน้ากองทัพบก  

21 ก.ค. 2563

มศว คนรุ่นเปลี่ยน #มศวขอมีจุดยืน อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ตะโกน ยุบสภา 10 ครั้ง และสวนสวยจริงๆ 10 ครั้ง

22 ก.ค. 2563

มหาสารคาม #อีสานสิบ่ทน 

ชลบุรี #ชาวชลบุรีที่ทนไม่ไหวอีกแล้ว เวลา 

แพร่ #คนแพร่เล่าขวัญเผด็จการ #แป้แกนต๋าเผด็จการ #แป้หนาบะ 

เพชรบูรณ์ #เพชรบูรณ์ไม่รับใช้เผด็จการ ณ ที่ว่าการอำเภอหนองไผ่

สงขลา #สงขลาไม่ทนtoo ณ นางเงือก

23 ก.ค. 2563

พระนครศรีอยุธยา #อยุธยาจะไม่ทนอีกต่อไป เวลา 16.00 น. ณ บึงพระราม

ขอนแก่น #อีสานบ่ย่านเด้อ #ขอนแก่นพอกันที #มาด้วยใจบ่มีไผจ้าง เวลา 17.00 น. ณ สวนรัชดานุสรณ์

ปทุมธานี #รังสิตไม่ทนเผด็จการ เวลา 17.00 น. ณ ลานหลังพระศรีฯ ม.รังสิต 

ปัตตานี หมุดหมายประชาธิปไตย ม.อ.ปัตตานี 

24 ก.ค. 2563

อุดรธานี #อุดรสิบ่ทน เวลา 17.00 น. ณ ทุ่งศรีเมือง ลานน้ำพุ

ลำพูน #คนลำพูนก็จะไม่ทนโว้ย เวลา 17.00 น. ณ ลานอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี

พัทลุง #พัทลุงไม่ทนแล้วโว้ย เวลา 18.00 น. ณ บริเวณหน้าพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ

กรุงเทพฯ #ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เวลา 16.30 หอประชุมใหญ่ ม.เกษตรศาสตร์

กรุงเทพฯ #เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ เวลา 14.30 น. ลาน 70 ปี โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

นครราชสีมา #โคราชจะไม่ทน เวลา 17.00 น. ลานข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี

25 ก.ค. 2563

สมุทรปราการ #สมุทรปราการจะไม่ทน เวลา 17.00 น. ณ ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ

เชียงราย #คนเจียงฮายคนง่ายบ่เอาคนหลายใจ เวลา 17.00 น. ลาน ร.5

26 ก.ค. 2563

จันทบุรี #จันรีไม่ทนคนจัญไร ณ สนามกีฬาสามเหลี่ยม เวลา 17.00 น.

หนองคาย #หนองคายสิบ่ทน เวลา 17.00 หอนาฬิกาแคนคู่

ปัตตานี #มอออตานีขยี้รอบที่สอง เวลา 16.30 น. ตึกส้ม ม.อ.ปัตตานี

27 ก.ค. 2563 

พะเยา #พะเยาจะบ่าทน เวลา 17.00 น. ถนนคนเดิน กว๊านพะเยา 

29 ก.ค. 2563

นครสวรรค์ #นครสวรรค์จะไม่ทน เวลา 17.00 น. ณ ประตู 13 อุทยานสวรรค์

สุพรรณบุรี #สุพรรณจะไม่ทน เวลา 17.00 น ณ ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี 

30 ก.ค. 2563

กรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี #ฝั่งธนแต่เราจะไม่ทน เวลา 16.00 น. ณ อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน

นครปฐม #รบเพื่อประชาธิปไตย เวลา 17.00 น. รอสถานที่ จ.นครปฐม

1 ส.ค. 2563

ราชบุรี #ราชบุรีไม่ได้มีดีแค่ปากส.ส. เวลา 17.00 น. สถานที่จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

2 ส.ค. 2563

ร้อยเอ็ด #ร้อยเอ็ดเราไม่เอาเผด็จการ เวลา 17.00 น. ณ ลานหน้าบึงพลาญชัย

10 ส.ค. 2563 

ปทุมธานี #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน เวลา 17.00 น. ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 

14 ส.ค. 2563

กาฬสินธุ์ #ไปม็อบอย่างไรให้มีประโยชน์ 17.00 น. หน้าศาลากลางจังหวัด

เร็วๆ นี้ 

สกลนคร #ตู่ไม่ไปไทยไม่ก้าว

กรุงเทพฯ #กระจอกก็ออกไปลูกแม่ไทรไม่ต้องการ ม.หอการค้าไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 1 เดือน ถึง 31 ส.ค. - ไม่ขัดชุมนุม
• นี่คือจุดเริ่มต้น? ยกระดับ-จุดพลังแฟลชม็อบสู่ชุมนุมใหญ่
• ครึ่งปี 63 ม็อบไล่ 'ประยุทธ์' ทะลุ100 ม็อบ- ม็อบออนไลน์ยอดแฮชแท็กพุ่ง 20 ล้าน
• มอง ‘เยาวชนปลดแอก’ เมื่ออุดมการณ์โดยรัฐไทยก้าวไม่ทันความเปลี่ยนแปลง : เวียงรัฐ เนติโพธิ์
• ไล่ปฏิกิริยาร้อน 'ม็อบการเมือง' ปลดแอก! พ.ร.ก.ฉุกเฉิน -'ประยุทธ์' ง้างอำนาจพิเศษ
• 'มศว คนรุ่นเปลี่ยน'ขู่ยกระดับ บี้ 'ประยุทธ์' ยุบสภา ตะโกนใส่อนุสาวรีย์ ปชต. 'สวนสวยจริงๆ'
• 'ชลบุรี' เรือนพันต้าน รบ. ขีดเส้น 1 ส.ค. ขู่ชุมนุมใหญ่หากไม่รับข้อเสนอ
• 'นิสิต มมส.' บี้ยุบสภา-ปราศรัยโต้ 'อธิการบดี' รับใช้ผู้มีอำนาจ