สาธารณสุขแคนาดาระบุว่า กฎระเบียบดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค. โดยแนวนโยบายนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลดการใช้ยาสูบของแคนาดา ให้มีอัตราน้อยกว่า 5% ภายในปี 2578
ในการประกาศเมื่อวันพุธ (31 พ.ค.) สาธารณสุขแคนาดากล่าวว่ากฎระเบียบใหม่ "จะทำให้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่ (ผู้ผลิต) จะหลีกเลี่ยงการระบุคำเตือนด้านสุขภาพ" ในผลิตภัณฑ์ยาสูบ โดยหน่วยงานด้านสาธารณสุขแคนาดาคาดการณ์ว่าภายในเดือน เม.ย. 2568 ร้านค้าปลีกในแคนาดาจะจำหน่ายเพียงแต่ผลิตภัณฑ์ยาสูบ ที่มีฉลากคำเตือนใหม่บนตัวบุหรี่โดยตรง
ผลิตภัณฑ์ที่จะมีฉลากคำเตือนสุขภาพบนกระดาษมวนบุหรี่โดยตรง ได้แก่ บุหรี่มวน ซิการ์ บุหรี่เล็ก ท่อม้วน และผลิตภัณฑ์ยาสูบอื่นๆ โดยสาธารณสุขแคนาดากล่าวว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นไปตามระยะเวลาการเปิดทำการปรึกษาหารือทางสาธารณะเป็นเวลา 75 วันเมื่อปีที่แล้ว
ปัจจุบันนี้ แคนาดามีการพิมพ์ฉลากคำเตือนด้านสุขภาพบนซองบุหรี่แล้ว โดยสาธารณสุขแคนาดากล่าวว่า พวกเขามีแผนที่จะขยายนโยบายเหล่านี้ ด้วยการพิมพ์ฉลากคำเตือนเพิ่มเติมภายในบรรจุภัณฑ์ และนำเสนอข้อความเตือนแบบใหม่ภายนอกซองบุหรี่
ในแถลงการณ์ แคโรลีน เบนเน็ตต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสุขภาพจิตและการเสพติดของแคนาดา กล่าวว่า การสูบบุหรี่คร่าชีวิตชาวแคนาดาราว 48,000 คนในแต่ละปี “เรากำลังดำเนินการไปสู่การเป็นประเทศแรกในโลก ที่ติดฉลากบนตัวบุหรี่แต่ละมวน ด้วยข้อความเตือนด้านสุขภาพ” เบนเน็ตต์กล่าว พร้อมเรียกการเปลี่ยนแปลงนี้ว่าเป็น “ก้าวย่างที่กล้าได้กล้าเสีย”
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับความชื่นชมจากสมาคมมะเร็งแคนาดา มูลนิธิหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองของแคนาดา และสมาคมโรคปอดของแคนาดา ซึ่งกล่าวว่าพวกเขาหวังว่า มาตรการดังกล่าวจะยับยั้งผู้คน โดยเฉพาะเยาวชน จากการสูบบุหรี่ ทั้งนี้ การสูบบุหรี่ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งปอด โรคหัวใจ และหลอดเลือด
แคนาดากำหนดให้ผู้ผลิตบุหรี่ ต้องพิมพ์ฉลากคำเตือนบนซองบุหรี่มาตั้งแต่ปี 2532 ตามหลังสหราชอาณาจักรในปี 2514 ทั้งนี้ สหรัฐฯ เป็นชาติแรกในโลกที่กำหนดให้มีคำเตือนเรื่องสุขภาพบนซองบุหรี่ โดยการผ่านกฎหมายบุหรี่จากรัฐบาลกลางอย่างรัฐบัญญัติฉลากและการโฆษณา พ.ศ.2508
ฉลากคำเตือนด้านสุขภาพบนซองบุหรี่ในทั้ง 3 ประเทศมีการพัฒนามาตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการใส่รูปภาพเตือนในบางครั้ง นอกเหนือจากข้อความเพื่อแสดงผลกระทบต่อสุขภาพจากการสูบบุหรี่ จากรายงานระบุว่า หลังจากสหรัฐฯ เริ่มระบุคำเตือนด้านสุขภาพบนฉลาก อัตราการสูบบุหรี่มีตัวเลขที่ลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ดี งานวิจัยบางชิ้นพบว่าฉลากไม่ได้ช่วยให้ผู้ที่ติดนิโคตินสูงเลี่ยงที่จะสูบบุหรี่
ตามข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ 42% สูบบุหรี่ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1960 โดยในปี 2564 ตัวเลขดังกล่าวลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 11% อย่างไรก็ดี การใช้บุหรี่ไฟฟ้าดูเหมือนจะมีอัตราที่เพิ่มขึ้น
จากการสำรวจยาสูบและนิโคตินแห่งชาติปี 2564 แคนาดามีอัตราของผู้สูบบุหรี่ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 10% เช่นเดียวกับสหรัฐฯ ที่การสำรวจพบว่า อัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีเพิ่มสูงขึ้นที่ประมาณ 17%
ที่มา: