หลังการหารือเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงมาสักการะพระแม่ธรณีก่อนและรีบขึ้นรถกลับไปก่อนแกนนำทั้ง 2 พรรคจะลงมา โดยกล่าวว่าจะไปทำธุระ เช่นเดียวกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคประชารัฐ รีบกลับก่อน โดยอ้างว่าไปหาหมอ

จากนั้นประมาณ 3 นาที แกนนำทั้ง 2 พรรคลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่รออยู่ โดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า วันนี้พรรคได้รับโอกาสให้มาหารือที่ประชาธิปัตย์ในเรื่องของหลักการนโยบายและฟังความคิดเห็นในการทำงานร่วมกันเพื่อที่จะหาข้อสรุปในการเดินหน้าร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งแนวโน้มในการพูดคุยเป็นไปด้วยดี

ด้าน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่พรรคยังให้คำตอบพรรคพลังประชารัฐอย่างเป็นทางการไม่ได้ตอนนี้ เพราะพรรคมีเอกภาพ แต่จะต้องพูดคุยถึงนโยบายที่จะให้พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลบัญญัติไว้ในการแถลงเปิดนโยบายต่อรัฐสภาจะต้องมีความชัดเจนและต้องตอบทุกคนได้ว่า จะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐด้วยเหตุผลอะไร

ทั้งนี้ยอมรับว่าการพูดคุยในวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี หากได้ร่วมงานกันในวันข้างหน้า นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงการแก้รัฐธรรมนูญ ในบางบทบัญญัติที่เป็นปัญหา และความเป็นไปได้เนื่องจากต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้านด้วย รวมถึงปัญหาของประเทศในวันนี้ว่าจะร่วมกันแก้ไขเรื่องใดได้บ้าง

ส่วนจะให้คำตอบกับพรรคพลังประชารัฐอย่างเป็นทางการได้เมื่อไหร่นั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ไม่ช้า ก่อนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกันถึงรายละเอียดว่าจะแบ่งสรรกระทรวงกันอย่างไร

เช่นเดียวกับนายอุตตม ที่ยืนยันว่า การพูดจากันวันนี้เป็นไปได้ด้วยดีและยังมีเวลาคุยกันเรื่องตำแหน่ง พร้อมทั้งยืนยันพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคพลังประชารัฐไม่มีข้อกังวลใจอะไรเกี่ยวกับงูเห่าในการประชุมสภาเพื่อเลือกประธานรัฐสภาที่ผ่านมา หลังจากนั้นนายอุตตมและนายเฉลิมชัยจับมือกันถ่ายรูป ร่วมกับแกนนำพรรคก่อนขึ้นรถกลับ

ผู้สื่อข่าวถามนายอุตตมว่า ได้ขึ้นไปทักทายนายชวน หลีกภัย ว่าที่ประธานสภา บนชั้น 3 หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ไม่ทราบว่านายชวนอยู่ จึงไม่ได้ขึ้นไปสวัสดี

หลังจากพรรคพลังประชารัฐกลับไปแล้ว นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ มาชูป้ายที่ลานพระแม่ธรณีบีบมวยผมว่า “ไม่เอาประยุทธ์เป็นนายกฯ” พร้อมกล่าวว่า เป็นสิทธิของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกพรรคบางส่วนให้ตนส่งสารแทนคนที่ไม่สนับสนุน ตนให้สัมภาษณ์เพียงเท่านี้ และตนเห็นพ้องกับสมาชิกจำนวนมากที่ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ แต่ถ้ามติพรรคออกมาต่างจากความคิดตน ตนก็ขอกลับไปพิจารณา เพราะก่อนหน้านี้ตนเห็นด้วยกับนายอภิสิทธิ์ และยืนยันว่าพรรคเป็นประชาธิปไตย