ไม่พบผลการค้นหา
ผู้ใช้ทวิตเตอร์ร่วมกันติดแฮชแท็ก #ไม่เอารัฐประหาร หลังกระแสข่าวการเคลื่อนรถถังเข้าเมืองกรุง หวั่นเกิดรัฐประหารรอบใหม่ ทำให้คนส่วนใหญ่แชร์คู่มือต่อต้านรัฐประหาร พร้อมบอกทำกี่ครั้งก็ไม่เห็นประเทศจะดีขึ้น

ตั้งแต่ช่วงดึกที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันที่ 7 ก.ย.2563 ในทวิตเตอร์เกิดแฮชแท็ก #ไม่เอารัฐประหาร ติดใน 10 อันดับท็อปเทรนด์ประจำวัน หลังมีกระแสข่าวว่า กำลังมีความพยายามที่จะก่อการรัฐประหารในประเทศไทยอีกครั้ง จนสร้างความไม่พอใจให้กับคนไทยบางส่วน ถึงขั้นออกมารณรงค์ต่อต้านการทำรัฐประหารผ่านโซเชียลมีเดีย ด้วยการติดแฮชแท็ก #ไม่เอารัฐประหาร 

สาเหตุเริ่มจากช่วงกลางดึก 6 ก.ย.ที่ผ่านมา บัญชี 'แหม่มโพธิ์ดำ' ได้ทวิตภาพรถถังโดยระบุว่า "ทหารจากกาญกองพล๙เข้ากรุงเทพฯ อีกแล้ว น่าจะเตรียมตัวสำหรับวันเด็ก 2021 แน่ๆเลย" พร้อมติดแฮชแท็ก #ไม่เอารัฐประหาร #ไม่เอาเผด็จการ #หยุดคุกคามประชาชน

หลังจากนั้นจึงมีผู้ติดแฮชแท็ก #ไม่เอารัฐประหาร ตามมานับแสนครั้ง ส่วนใหญ่เรียกร้องให้ผู้คิดจะก่อรัฐประหารฟังเสียงประชาชนบ้าง ว่าขณะนี้พวกเขากำลังต้องการอะไร อีกทั้งการทำรัฐประหารแต่ละครั้งก็ไม่ได้ทำให้ประเทศเจริญขึ้น มีแต่จะทำให้แย่ลง ขออย่านำประเทศกลับสู่วังวนเดิมอีก


ด้านทวิตเตอร์ ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือ ฟอร์ด เลขาธิการกลุ่มประชาชนปลดแอก ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า "ถ้าเกิดความพยายามทำรัฐประหารไม่ว่าจะโดยใครก็ตาม ขอให้พี่น้องประชาชนออกมาร่วมกันขัดขวางและทำให้ผู้ก่อการกลายเป็นกบฎตาม ป.อาญา 113 โดยทันที" 


โดยความใน ป.อาญา 113 นั้น ว่าไว้ "ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อ 

(1)ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ

(2)ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาตดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ

(3)แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร

ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต


ด้าน มาตรา 114 ระบุ ผู้ใดสะสมกำลังพล หรืออาวุธตระเตรียมการอื่นใด หรือสมคบกันเพื่อเป็นกบฏ หรือกระทำความผิดใดๆ อันเป็นส่วนของแผนการเพื่อเป็นกบฏ หรือยุยงราษฎรให้เป็นกบฏหรือรู้ว่ามีผู้จะเป็นกบฏ แล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี

นอกจากนี้ยังมีการรีทวิตภาพคู่มีต่อต้านรัฐประหารอย่างเป็นระบบ โดยแบ่งเป็น 3 ขั้นคือ ป้องกัน, ต่อต้าน และฟื้นฟู โดยเน้นย้ำว่าต้องยึดหลักสันติวิธีในทุกขั้นตอนไม่ใช้กำลัง และไม่นำตัวเองไปอยู่ในสถานการณที่เสี่ยงต่ออันตรายถึงชีวิตโดยไม่จำเป็นด้วย 


ขณะเดียวกันยังมีการแสดงความเห็นเป็นภาษาอังกฤษ วิพากษ์วิจารณ์สื่อมวลชนไทยว่า ควรจะเลิกถาม พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ว่าจะมีรัฐประหารเกิดขึ้นหรือไม่ แต่ควรจะถามว่าเพราะเหตุใดจึงคิดว่าคนไทยจะสามารถยอมรับการรัฐประหารอีกครั้งหนึ่งได้