เตโดรส แอดฮนอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก หรือ WHO กล่าวกับคณะกรรมการบริหารของ WHO ระหว่างการประชุมที่กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ว่า ทั่วโลกกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันตนเองอย่างเรื้อรัง ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาชนิดใหม่
เตโดรสระบุว่า จะพูดคุยกับเครือข่ายซัพพลายเชนสำหรับอุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรค เพื่อพยายามแก้ปัญหา "คอขวด" ในการผลิตอุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรค
ก่อนหน้านี้ WHO ระบุว่า เริ่มส่งหน้ากาก ถุงมือ เครื่องช่วยหายใจ ชุดกาวน์ และกล่องเครื่องมือทดสอบเชื้อไปยังประเทศที่ต้องการความช่วยเหลือ
นอกจากนี้ เตโดรสยังกล่าวว่า บางประเทศไม่แบ่งปันข้อมูลผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้ว และขอให้ประเทศสมาชิกเหล่านั้นแบ่งปันข้อมูลโดยทันที โดยเตโดรสระบุว่า "ไม่มีประเทศหรือองค์กรใดสามารถยุติการแพร่ระบาดนี้ได้ด้วยตัวเอง ความหวังเดียวก็คือการร่วมมือกันทำงาน" เนื่องจาก "เรามีศัตรูร่วมกัน ซึ่งอันตรายและสร้างความวุ่นวายอย่างร้ายแรง ทั้งทางสังคม การเมืองและเศรษฐกิจ"
เตโดรสชี้ให้เห็นว่า ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเริ่มลดลง ซึ่งถือเป็นข่าวดี แต่ก็ต้องระมัดระวังไม่ให้ตีความสัญญาณที่เห็นนี้มากเกินไป เพราะตัวเลขอาจเพิ่มขึ้นอีกครั้งได้
ฟ็อกซ์คอนน์เตรียมผลิตหน้ากาก
ด้านบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ ผู้ผลิตไอโฟนของแอปเปิลประกาศว่าจะเปลี่ยนจากการผลิตโทรศัพท์มาผลิตหน้ากากกันเชื้อโรค หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ทำให้มีความต้องการหน้ากากกันเชื้อโรคสูงมากจนขาดแคลนหน้ากากกันทั่วโลก
ฟ็อกซ์คอนน์ได้ทดสอบการผลิตหน้ากากที่โรงงานหลักที่เมืองเซินเจิ้นแล้ว เมื่อบริษัทสามารถผลิตป้องกันพนักงานจากโรคระบาด และสามารถเริ่มการผลิตอย่างเต็มสูบแล้วก็จะผลิตหน้ากากให้กับคนนอกบริษัท โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถผลิตหน้ากากได้ 2 ล้านชิ้นต่อวันภายในสิ้นเดือน ก.พ.นี้
ขณะเดียวกัน ฟ็อกซ์คอนน์จะผลักดันให้ทางการจีนอนุญาตให้บริษัทเปิดไลน์การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ได้อีกครั้ง หลังจากที่ถูกสั่งปิดโรงงานชั่วคราว เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
นอกจากนี้ ฟ็อกซ์คอนน์จะใช้อุปกรณ์วัดอุณหภูมิอินฟาเรดรุ่นใหม่ในโรงงานเพื่อช่วยคัดกรองคนงานที่อาจติดเชื้อไวรัสโคโรนา
ที่มา : Channel News Asia, BBC