วันที่ 20 ก.พ. ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวในงานสัมมนาแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ปี 2563 ที่จัดโดยสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ไม่ดีเอามากๆ อย่าคาดหวังว่าจะเป็นบวก ซึ่งจะมีแต่แย่โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีแรกต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 3/2563 เนื่องจากยังคงมีปัญหารุมเร้าถึง 6 ด้าน มากกว่าปี 2562 ที่มีเพียง 3-4 ด้านเท่านั้น ทั้งความล่าช้าของงบประมาณรายจ่าย การส่งออกที่ชะลอตัวส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องชะลอการลงทุนตามไปด้วย ขณะเดียวกันราคาที่ดินที่ปรับสูงขึ้น มีผลโดยตรงกับการใช้จ่ายของผู้มีรายได้ประจำ
นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องของภัยแล้งเข้ามากระทบ จะส่งผลให้เกษตรกรมีภาระหนี้เพิ่มขึ้น และยังส่งผลต่อเนื่องในการใช้จ่ายที่น้อยลง ทั้งนี้ยังมีปัญหาเรื่องค่าเงินหยวนที่อ่อนค่า ส่งผลต่อการตัดสินใจท่องเที่ยวต่างประเทศของนักท่องเที่ยวจีน รวมถึงการระบาดของไวรัสโควิด-19
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร แนะว่า รัฐบาลต้องทำให้เศรษฐกิจเจ็บน้อยที่สุด โดยเฉพาะต้องทำให้เกษตรกรที่กำลังจะเผชิญปัญหาภัยแล้งไม่ให้เป็นหนี้เพิ่ม เพราะส่งผลต่อกำลังซื้อโดยตรง จำเป็นต้องเติมเงินลงระบบให้ถึงมือโดยตรง เช่น การทำ Negative Tax คืนเงินให้ชาวนารายย่อยที่มีพื้นที่ทางการเกษตรไม่เกิน 10 ไร่ ซึ่งการทำแบบเกิดขึ้นทั่วโลก ขณะเดียวในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ ยังค่อนข้างเป็นห่วงเพราะเป็นปัจจัยที่กระทบหลายส่วน แนะนำว่าไม่ใช่เร่งให้คนกู้มากขึ้น เร็วขึ้น แต่ตอนนี้ควรทำวิธีการยืดหยุ่นมากกว่า โดยเฉพาะการยืดอายุกรณีที่เอสเอ็มอี ลูกค้าที่เป็นหนี้ เดิมกำหนด 3 เดือนเป็นหนี้เสีย (NPL) ควรยืดระยะเวลาเป็น 6 เดือน หรือ 9 เดือนมากกว่า ซึ่งรัฐบาลจำเป็นที่จะต้องรู้ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องเรียลเอสเตส การยืดหนี้ ไม่ให้เป็นหนี้ ไม่ใช่แค่รู้ชิมช้อปใช้เพียงอย่างเดียว
“นายกรัฐมนตรี ท่านไม่รู้พอ หรือไม่เข้าใจพอ ที่จะคุมภาพรวมเศรษฐกิจได้ จะว่าท่านก็ไม่ได้ เพราะว่าพื้นฐานท่านคุมทหารมา จะรู้มากพอก็ไม่ได้ แต่ประเด็นคือว่ามันต้องฟังคนอื่น ต้องฟังคนที่รู้ ต้องยอมรับฟังความเห็นของคนที่รู้ แล้วเอาความเห็นตรงนั้นมาดำเนินเศรษฐกิจ แต่ตอนนี้ผมยังไม่เห็นในนายกฯ คนนี้” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ยังกล่าวว่า ตอนนี้คนไทยเริ่มว้าเหว่ เวลาเกิดปัญหาเศรษฐกิจ หากรัฐบาลรู้เรื่องมากพอ หรือฟังคนอื่นมากพอ ก็ไม่น่าเป็นห่วง แต่มองไปไม่เห็นว่าจะมีคนที่รู้เรื่องเศรษฐกิจมากพอ แต่จะว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ เพราะคุมไม่กี่กระทรวงเศรษฐกิจเท่านั้น