ที่บริเวณรัฐสภา เวทีประชาภิปรายโดยกลุ่มม็อบเฟส ปิยะรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ หัวหน้าการ์ด Wevo ปราศรัยในหัวข้อ 'ตำรวจไทยใจทาส' ว่าในอดีตสมัย กปปส.เหยียบย่ำศักดิ์ศรีเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีพี่น้องฝ่ายประชาธิปไตยออกมาปกป้องและเคียงข้าง ทว่าในปัจจุบันนายตำรวจหลายท่านกลับเปลี่ยนไปเลือกข้างที่มีผลประโยชน์ โดยเฉพาะในการชุมนุมทางการเมืองของราษฎร 2563 ยกตัวอย่างเหตุการณ์ชุมนุมหน้าสถานทูตเมียนมา
ปรากฎว่าหลังเหตุการณ์ยืดเยื้อกว่ากำหนด ตำรวจควบคุมฝูงชนวิ่งเข้าสลายการชุมนุมทันที โดยไม่มีเจรจาแต่อย่างใด ทราบภายหลังว่าเป็นความไม่พอใจจากเหตุนักกิจกรรมติดป้ายปฏิรูปสถาบันหน้า สภ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ โดย พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เป็นผู้บัญชาการฝากไปถึง พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ด้วยว่า "ขึ้นสุดได้ก็ลงสุดได้"
"สุดท้ายแล้วตำรวจจะมีตั๋วช้างหรือตั๋วไดโนเสาร์ หรืออะไรก็ตามแต่ผมไม่สนใจ แต่ผมสนใจหัวอกพี่น้องตำรวจชนชั้นล่าง อย่าให้พวกเขามายืนบนไหล่พวกคุณแล้วไปเติบโตบนหัวพวกคุณ พวกคุณต้องกล้าหาญกว่านี้ พวกคุณอายไหมตำรวจพม่า ที่เขาฉีดน้ำใส่ประชาชนทำให้ตำรวจหันหลังให้ แล้วเอาโล่มากำบังให้พี่น้องชาวเมียนมา ผมหวังและปรารถนาว่าวันใดวันหนึ่ง ถูกบังคับให้ใช้กำลังกับเรา ผมขอให้พี่น้องตำรวจหันหลังให้คำสั่งนายคุณ แล้วหันหน้ามาเข้าหาประชาชน แล้ววันนึงพี่น้องประชาชนจะคุ้มภัยให้คุณเอง" โตโต้ กล่าว
ดังนั้นตนในฐานะคนหนึ่งอยากเรียนว่าตนไม่อาจจะไว้วางใจคณะรัฐมนตรีพล.อ.ประยุทธ์ และนายของเขาเช่นเดียวกัน
ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล (รุ้ง) แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กล่าวปราศรัยว่ารัฐสภาเกิดขึ้นจากภาษีของประชาชน แต่ปัจจุบันส.ส.วิปรัฐบาลกลับมีที่มาจากเผด็จการ และทำลายหลักการประชาธิปไตย โดยการลุกขึ้นประท้วงด้วยการอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำไมเราพูดคำว่ารักในหลวงได้ แต่ทำไมเราถึงพูดว่าเรารู้สึกอย่างไร นับตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามายึดอำนาจบริหารประเทศ ด้วยการอ้างความสงบและปกป้องสถาบันกษัตริย์ ทว่าสิ่งที่ประจักษ์คือภาพชาวบ้านต้องมารอรับสวสัดิการแบบชิงโชค และคนทุกข์ยากในยุครัฐบาลประยุทธ์
รวมถึงภาพของการอุ้มฆ่าคนเห็นต่างทางการเมือง จึงไม่แปลกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเข้ามากอบโกยผลประโยชร์จากรัฐ ทำให้การพัฒนาของรัฐไม่มีประชาชนอยู่ในสมการ ขณะเดียวกันยังขยายพระราชอำนาจสถาบันพระมหากษัตริย์ โอนย้ายหน่วยงานอย่างน้อย 5 แห่ง อยู่ภายใต้ส่วนราชการพระองค์ ทำให้อยู่เหนือการตรวจสอบทำลายระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้งบประมาณของสถาบันกษัตริย์ยังเพิ่มขึ้นมากว่า 50% ในระยะเวลา 4 ปี ในส่วนการต่อสู้ของราษฎร อยากขอให้ประชาชนออกมาต่อสู้ จนกว่าจะบรรลุข้อเรียกร้องและหวังว่าพวกเราจะชนะ รัฐบาลเผด็จการและศักดินา ทั้งนี้ในช่วงท้ายของกิจกรรมประชาชนได้ลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์และองคาพยพ ก่อนที่แกนนำจะประกาศยุติการชุมนุม เวลา 22.00 น.
อ่านเพิ่มเติม