ไม่พบผลการค้นหา
กลุ่มจิตอาสารวมตัวกันเข้าช่วยเหลือแมวกว่า 50 ตัวภายในคาเฟ่ แมวที่เพิ่งปิดตัวไป พบสภาพแมวอยู่กันอย่างแออัดไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งขณะนี้แมวยังไม่สามารถแจกจ่ายได้เนื่องจากเป็นของกลาง

เฟซบุ๊กชื่อ ทัพอิญ เสรีรวมไทย บึงกุ่ม รามอินทรา เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า ตนและกลุ่มจิตอาสาจำนวนหนึ่งเข้าช่วยเหลือแมวจำนวนกว่า 50 ตัว ภายในคาเฟ่แห่งหนึ่งที่ถูกปิดไปตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา ย่านวัชรพล กรุงเทพฯ คาเฟ่ดังกล่าวเป็นของสัตวแพทย์คนหนึ่ง พบมีพฤติกรรมเพาะพันธุ์แมวสฟริงซ์ ให้เกิดสายพันธุ์ยีนส์ด้อย โดยได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีการกักขังแมวไว้หลายสิบตัว มีเป็นซากแมวอีกกว่า 20 ตัวที่ถูกแช่แข็งไว้ ทั้งนี้เจ้าของคาเฟ่ ถูกจับดำเนินคดีและถูกจำคุกในคดีอาญา และมีคู่กรณีหลายรายโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหายร่วมช่วยเหลือด้วย

โดยการเข้าช่วยเหลือแมวทั้งหมดพบว่า มีสภาพอยู่กันอย่างแออัด และไม่ถูกสุขลักษณะ อากาศไม่ถ่ายเท ไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอ แมวบางตัวพิการตาบอด โดยเจ้าของเพจได้โพสต์แจ้งว่า ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาลงบันทึกประจำวัน เก็บหลักฐานการช่วยเหลือแมวออกจากสถานที่แล้ว ส่วนใครที่ฝากแมวไว้ในโซนโรงแรม ขอความกรุณารับแมวกลับด้วย เนื่องจากเจ้าของสถานที่จะยึดคืนเพื่อทำความสะอาด

นอกจากนี้ ยังแจ้งด้วยว่า แมวเหล่านี้เป็นของกลาง ยังไม่สามารถนำออกมาแจกจ่ายโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของทางกฎหมาย ซึ่งคือเจ้าหนี้ผู้ดำเนินคดีกับสัตวแพทย์เจ้าของคาเฟ่ หน้าที่ตนกับกลุ่มจิตอาสาที่เข้ามาดูแลรักษาแมวใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัว ไม่หวังผลประโยชน์ มีกลุ่มสัตวแพทย์เสนอเข้ามาช่วยเหลือ แต่ทางกลุ่มสรุปว่าต้องมารักษาในสถานที่ที่เป็นกลางเพื่อความโปร่งใส หากแมวตัวใจวิกฤตจะยอมให้ไปรักษาในคลินิกได้แต่ต้องอยู่ภายใต้ข้อตกลงของกฎหมาย 


ทั้งนี้ มีบรรดาลูกค้าเก่าทั้งที่เคยใช้บริการฝากแมวและคาเฟ่ เข้ามาแสดงความคิดเห็นด้วยว่า เคยพาแมวของตัวเองไปใช้บริการ ซึ่งตอนแรกบริการดีมาก แต่ช่วงหลังมากลับเปลี่ยนไป แถมแมวของตัวเองกลับมีเชื้อรา ไรในหู และภูมิตกจนต้องพาไปหาสัตวแพทย์ ทั้งที่แมวเลี้ยงแบบระบบปิดมาโดยตลอด ส่วนอีกคนเล่าว่า เคยไปนั่งคาเฟ่แมวตอนแรกแมวน่ารักดี แต่ตอนหลังทราบว่าแมวเหล่านี้ถูกเพาะพันธุ์แบบไม่ถูกวิธีจึงไม่ได้แวะไปอีก และยังมีผู้ติดต่อขอรับแมวตัวเองที่ฝากไว้กับทางโรมแรมกลับคืนด้วยหลังจากเห็นแมวตนเองผ่านสื่อที่นำเสนอข่าวนี้ออกไป