เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าพบ ว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์มาทำเนียบรัฐบาล และเข้าพบตนบ่อย แต่สื่อมวลชนไม่เจอเอง ส่วนวันนี้ (14 ก.ย.) เขามารายงาน ข้อราชการที่ตนได้มอบหมายให้ไปปฏิบัติ ว่ามีความคืบหน้าอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้มีข่าวที่ว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จะย้ายกลับเข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้มาพูดคุยเรื่องดังกล่าวหรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า ไม่มี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาล โดยขึ้นอยู่กับปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งมีตนกำกับดูแลอีกชั้นหนึ่ง และได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ดูแลงานด้านเรื่องรับราวร้องทุกข์ เขาจึงมารายงานความคืบหน้าในการปฎิบัติหน้าที่ ส่วนงานที่มอบหมายไปนั้นขอไม่เปิดเผย และยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับข่าวที่ว่าจะย้ายกลับ ตร. เพราะ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไม่เคยพูดเรื่องนี้กับตน แต่พูดกับคนอื่นหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ
เมื่อถามว่าใครคือผู้มีอำนาจสามารถตัดสินใจให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กลับเข้า ตร. รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีคนเดียว เมื่อถามย้ำว่าแล้ว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มีโอกาสที่จะโอนย้ายกลับ ตร.หรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าตามช่องทางกฎหมายแล้ว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ สามารถขอโอนย้ายกลับ ตร.ได้หรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า ในคำสั่งคสช.ที่ 9/2562 ได้เขียนว่า ผู้ที่เคยถูกคำสั่งให้มาอยู่ในอัตรากำลังชั่วคราว 20 อัตรา ก็ให้ยังอยู่ต่อไป จนกว่าปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จะได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรี โดยรายงานว่าบัดนี้หมดความจำเป็นแล้ว ก็จะได้พิจารณาดำเนินการอย่างอื่นต่อไป ช่องทางก็มีอยู่เช่นนี้ ซึ่งก็ได้มีคนกลับไปโดยวิธีนี้บ้างแล้ว
ทั้งนี้ในช่วงปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ปรากฏเป็นข่าวเดินสายทำบุญ และอธิษฐานขอกลับมาเป็น 'ตำรวจ' อีกครั้ง โดยตำแหน่งสุดท้ายในบทบาทตำรวจก่อนถูกสั่งย้ายคือ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :