วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ คณะกรรมการทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย วิวรรธนไชย ณ กาฬสินธุ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย และอดีต ส.ส.หลายสมัย

ได้ลงพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตำบลเมืองเก่า จังหวัดสุโขทัย เพื่อปราศรัยช่วย ประภาพร ทองปากน้ำ ผู้สมัคร ส.ส.สุโขทัย เขต 3 เบอร์ 5 พรรคเพื่อไทย โดยมี ชูศักดิ์ คีรีมาศทอง ผู้สมัคร ส.ส.สุโขทัย เขต 2 เบอร์ 3 เข้าร่วมด้วย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนเข้าร่วมกว่า 3,000 คน

โดยสมศักดิ์ กล่าวว่า พื้นที่ตำบลเมืองเก่า เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ในการพัฒนาส่งเสริมพื้นที่นี้ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้ามา ก็จะเกิดกำลังการซื้อ ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน ดังนั้นเราต้องเน้นผลักดันให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา โดยที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทย สร้างมูลค่าให้ปีละประมาณ 7 แสนล้านบาท

แต่นโยบายของพรรคเพื่อไทย จะทำให้มีมูลค่าเพิ่มเป็น 3 ล้านล้านบาท ซึ่งจังหวัดสุโขทัย ก็จะได้รับประโยชน์จากนโยบายนี้เต็มๆ เพราะที่ผ่านมา เราไม่สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยว มาพักค้างคืนได้ เนื่องจากไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวหลัก แต่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ได้ประกาศกลางเวทีปราศรัยแล้วว่า จะทำให้จังหวัดสุโขทัยเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก

“ที่ผ่านมา จังหวัดสุโขทัย ยังได้รับผลกระทบด้านการท่องเที่ยวโดยตรง จากกรณีมีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ถูกทำร้ายเสียชีวิต ทำให้คนญี่ปุ่น ไม่กล้าเดินทางมา เมื่อผมทราบปัญหา ก็ได้ช่วยแก้มาโดยตลอด ซึ่งขณะเป็น รมว.ยุติธรรม ก็ได้ติดตามให้ใช้เทคโนโลยีมาทำการสืบค้นดีเอ็นเอ จนทราบว่า ดีเอ็นเอที่ติดอยู่ในเสื้อผ้าผู้เสียชีวิตนั้น ไม่ใช่ของคนไทยอย่างแน่นอน ทำให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใจว่า ไม่ใช่คนไทยก่อเหตุ จึงเริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางกลับมาอีกครั้ง โดยจะเห็นได้ว่า ผมไม่ได้นิ่งนอนใจ อะไรที่มีผลกระทบกับจังหวัดสุโขทัย ผมจะรีบเร่งแก้ปัญหาให้อย่างเร่งด่วนที่สุด” นายสมศักดิ์ กล่าว 

ขณะที่ ประภาพร กล่าวว่า ตนพร้อมทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน เพราะเคยทำธุรกิจส่วนตัวประสบความสำเร็จมาแล้ว รวมถึงได้ติดตามคุณพ่อลงพื้นที่มาโดยตลอด จึงมีความพร้อมที่จะเข้ามาสานต่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ตนทำงานเป็นทีม ซึ่งถ้าเลือกทั้งคน และพรรคเพื่อไทย เบอร์ 29 จังหวัดสุโขทัย ก็จะมีผู้แทนถึง 7 คน แบ่งเป็น ส.ส.เขต 4 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 3 คน จะทำให้สามารถเข้าไปขับเคลื่อนนโยบายดีๆให้กับพี่น้องประชาชนได้

ทั้งการพักหนี้เกษตรกร ทั้งต้นและดอก 3 ปี เพิ่มราคาสินค้าเกษตร พร้อมสนับสนุนให้จังหวัดสุโขทัย เป็นเมืองท่องเที่ยวให้มากขึ้น จากที่เราเป็นเมืองรอง แต่เมื่อพรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาล จังหวัดสุโขทัย จะต้องเป็นเมืองหลักของการท่องเที่ยว โดยจะทำให้ประชาชน มีช่องทางทำมาหากิน มีรายได้เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน

จากนั้น สมศักดิ์ ได้ลงพื้นที่จังหวัดพิจิตร และจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อพบปะกับผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย ปุณยวัจน์ เหลืองวิจิตร ผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร เขต 1 เบอร์ 2 , วิชัย ด่านรุ่งโรจน์ ผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร เขต 3 เบอร์ 8 , สุทัศน์ จันทร์แสงศรี ผู้สมัคร ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 1 เบอร์ 5, ชัยณรงค์ สืบสุรีย์กุล ผู้สมัคร ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 2 เบอร์ 8 , ทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ ผู้สมัคร ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 4 เบอร์ 7 และ สุประวีณ์ อนรรฆพันธ์ ผู้สมัคร ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 5 เบอร์ 7 

โดย สมศักดิ์ ได้เน้นย้ำกับผู้สมัคร ส.ส.ให้เร่งลงพื้นที่หนักขึ้น พร้อมแนะนำให้เดินตามบ้านพี่น้องประชาชนให้มากขึ้น ซึ่งต้องไปให้ครบทุกตำบล ทุกหมู่บ้าน เพื่อจะได้สื่อสารนโยบายของพรรค กับพี่น้องประชาชนโดยตรง พร้อมเตือนผู้สมัครทุกคนว่า ถึงแม้กระแสพรรคเพื่อไทยจะมาแรง แต่ก็ประมาทไม่ได้ โดยเราต้องยิ่งลงพื้นที่ให้หนักกว่าเดิม เพราะพรรคเพื่อไทย ไม่มีปัจจัยอื่นสู้ ซึ่งมีแต่นโยบายที่พี่น้องประชาชนชื่นชอบ โดยตนมีความมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทย จะมีผู้แทนในจังหวัดเหนือตอนล่างครบทุกจังหวัด รวมถึงบางจังหวัดอาจมีแลนด์สไลด์ยกจังหวัดด้วย