นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ระบุถึงกรณีที่เกิดเหตุการณ์ยิงกัยภายในห้องพิจารณาคดี ของศาลจังหวัดจันทบุรี ว่า เบื้องต้นภายหลังเกิดเหตุ ทางสำนักงานศาลยุติธรรมได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจศาล ลงพื้นที่ไปตรวจสอบและเก็บข้อมูลพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อตรวจสอบหาว่า มีเจ้าหน้าที่ของศาลคนใดบ้างที่ต้องถูกดำเนินการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมีการรายงานกลับมาเบื้องต้นว่า จากการตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยของศาลจันทบุรี มีกำลังพลที่น้อยและยังมีประสิทธิภาพไม่เต็มร้อย ซึ่งต่อจากนี้จะรวบรวมข้อมูลแลพิจารณาอีกครั้ง คาดว่าจะรู้ผลในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ย.) ว่าต้องดำเนินกับเจ้าหน้าที่รายใดบ้าง
อีกทั้ง จากเหตุการณ์ความไม่สงบทั้ง 3 ศาลก่อนหน้านี้ ทั้งศาลจังหวัดยะลา ศาลจังหวัดพัทยา และล่าสุดศาลจังหวัดจันทบุรี สำนักงานศาลยุติธรรมจะรวบรวมข้อมูล เพื่อนำมาศึกษาหาแนวทางในการป้องกันการเกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นอีก ในอนาคต แต่การดำเนินการแรกที่มีการเริ่มแล้วคือ การเสนอให้มีการปรับอัตรา ต่อที่ประชุมในวันที่ 19 พ.ย. นี้ ให้มีจำนวนบุคคลาการ เพิ่มขึ้นจากเดิม หรืออย่างน้อย ควรต้องมีตำรวจศาล 2 คนต่อศาล ทั้งศาลในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อการดูแลความปลอดภัย ที่ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงการวางระบบเพิ่มเติมของอุปกรณรักษาความปลอดภัยต่างๆ ทั้งกล้องวงจรปิด อุปกรณ์ตรวจอาวุธ เพิ่มลูกกรง เป็น 2 ชั้น ในศาลที่ยังไม่มี ก็มีการดำเนินการตรวจสอบแล้วซึ่งหากพบว่า ยังต้องเพิ่มเติมในจุดใด ก็จะเร่งแก้ไขในทันที
นายสราวุธ ยังระบุเพิ่มเติมว่า สำหรับการควบคุมดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ของศาลทั่วประเทศจะมีหน่วยงานที่เข้ามาเกี่ยวข้องรวมแล้ว 3 หน่วยงาน คือหน่วยงานศาล หน่วยงานตำรวจ และหน่วยงานราชทัณฑ์ ซึ่งในส่วนของศาลจะดูแลในเรื่องของสถานที่ ทั้งการจัดเตรียมพื้นที่ควบคุมขณะอยู่ในบริเวณศาล รวมถึงห้องพบญาติ ซึ่งได้มีการสั่งการให้ตรวจสอบแล้ว และจะให้ดำเนินการแก้ไข ในจุดที่ยังต้องแก้ไข เช่น ศาลใดที่ยังเป็นลักษณะห้องขังชั้นเดียว ให้ดำเนินการแก้ไข เป็นแบบสองชั้นเพื่อป้องกันการส่งของให้กับผู้ต้องขัง ในระหว่างที่พบญาติ ส่วนหน่วยงานอีกสองหน่วยงาน ก็จะมีการแบ่งหน้าที่กันตามแต่ละพื้นที่
สำหรับเหตุการณ์ที่ผู้ต้องขังหลบหนีที่ศาลพัทยา เกิดขึ้นขณะที่ผู้ต้องขังอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทราบว่ามีการดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบไปแล้ว ตามขั้นตอนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม สำนักงานศาลยุติธรรมขอยืนยัน จะดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ที่เข้ามาใช้พื้นที่ศาล และเร่งวางแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นอีก ทั้งนี้หากพี่น้องประชาชนมีข้อมูล หรือทราบข่าวว่าจะมีการวางแผนหรือดำเนินการความรุนแรงในพื้นที่ของศาลก็สามารถแจ้งมายังศาลได้ทันทีเพื่อการป้องกันที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง