ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและได้รับรายงานถึงสัญญาณซึ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้รายงานให้ทราบว่าภาคการผลิตอุตสาหกรรมในเดือนเม.ย. 2565 เติบโตที่ร้อยละ 0.56 เป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่8
ขณะที่สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมได้ประเมินแนวโน้มผ่านเครื่องมือระบบเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย (EWS-IE) พบว่าใน 1-2 เดือนข้างหน้าภาคอุตสาหกรรมจะยังขยายตัวได้ด้วยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศและการเติบโตของการส่งออกตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าของไทยภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายตามลำดับ ทั้งไทยและต่างประเทศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค ประชาชนมีการเดินทางและมีการใช้จ่ายมากขึ้น
"นายกรัฐมนตรีพอใจกับสัญญาณของเศรษฐกิจที่ล่าสุดยังชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย ทั้งการผลิตอุตสาหกรรม การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าเกษตร ตลอดจนการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นจากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ทั้งหมดสะท้อนถึงแนวโน้มการมีงานทำและกำลังการใช้จ่ายของประชาชนที่จะดีขึ้น เป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลมุ่งดูแลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ต่อเนื่องเพื่อเกิดการจ้างงาน ให้ประชาชนมีรายได้" ไตรศุลี กล่าว
ไตรศุลี กล่าวว่า เพื่อรักษาแรงส่งทางเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการทั้งภาคการผลิตอุตสาหกรรม และการส่งออก โดยเฉพาะในส่วนของการส่งออกนั้นให้การสนับสนุนในการหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ อาทิ ตลาดในประเทศผู้ส่งออกน้ำมันที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ขยายตลาดจากกรณีที่ขณะนี้หลายประเทศได้มีนโยบายปกป้องอาหาร (Food protection) งดการส่งออกสินค้าบางรายการ เพื่อรักษาความมั่นคงทางอาหารในช่วงที่ถูกกระทบจากภาวะสงคราม ซึ่งการที่ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารสำคัญหลายรายการ จะเป็นโอกาสที่ผู้ส่งออกสามารถขยายตลาดเพิ่มเติมได้