ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จ.ขอนแก่น ได้มีการใช้กล้อง CCTV มาตรวจจับรถจักรยานยนต์ที่กระทำผิด ไม่สวมหมวกนิรภัย และฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ทั้งหมด 3 จุด คือ แยกประตูมอดินแดง, แยกเซ็นทรัล, และแยกเหล่านาดี ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนจะมีโทษปรับตามกฎหมาย โดยใบสั่งจะถูกส่งไปยังเจ้าของรถที่กระทำผิด โทษปรับไม่สวมหมวกนิรภัย คนขับ 400.- คนซ้อน 800.- ส่วนโทษฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ปรับ 500.-
ล่าสุด ได้มีการขยายต่อเฟส 2 ติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มอีก 3 จุด คือ แยกประตูศรีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถนนมะลิวัลย์, แยกโรงพยาบาลกรุงเทพ ถนนมะลิวัลย์, และแยกมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (แยกห้างบิ๊กซี ถ.มิตรภาพ) เพื่อให้เกิดความครอบคลุมในการดูแลด้านความปลอดภัยทางถนน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตั้งและทดสอบระบบ ก่อนจะเปิดใช้งาน “เริ่มตรวจจับจริง” ในวันที่ 9 ม.ค.64
พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า นอกจากการนำกล้อง CCTV เข้ามาช่วยตรวจจับการกระทำผิดกฎหมายจราจร ยังใช้ควบคุมด้านอาชญากรรมติดตามตัวผู้กระทำผิด สำหรับเฟสแรกได้ใช้กล้องบนถนนมิตรภาพที่เป็นสายหลักใน จ.ขอนแก่น แต่ยังมีถนนอีกหลายเส้นสำคัญที่อยู่ในชุมชนตัวเมืองมีรถสัญจรผ่านจำนวนมาก หากเทียบปี 62 กับ 63 การกระทำผิดจำนวนใกล้เคียงกัน แต่ปีนี้มาชำระค่าปรับเพิ่มมากขึ้น
ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้มีการประชาสัมพันธ์เรื่องกล้องตรวจจับคนกระทำผิดมาต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนรับรู้มากขึ้น สำหรับสถิติการออกใบสั่งตั้งแต่เดือน มี.ค.-พ.ย. 63 จำนวน 11,923 ราย มีผู้มาชำระค่าปรับ 1,426 ราย คิดเป็น 11.96% โดยคาดว่าการติดตั้งกล้องเพิ่มอีก 3 จุดในเฟสที่ 2 นี้จะเป็นเหมือนการเพิ่ม “สายตรวจไซเบอร์” เข้ามาช่วยควบคุมปัญหาการจราจร อุบัติเหตุ และอาชญากรรมได้เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ระบบกล้องสามารถดูย้อนหลังได้ 15 วัน และคาดว่าจะมีการต่อยอดไปยังเส้นทางอื่นๆ ตามชุมชนที่มีรถสัญจรเป็นจำนวนมาก สำหรับค่าใช้จ่ายในการติดตั้งกล้องและอุปกรณ์ประกอบในเฟสที่ 2 นี้ ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิเซฟเฟอร์โรดส์ จำนวน 17 ล้านบาท ที่ได้นำงบประมาณเข้ามาช่วยประเทศไทย เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีจิตสำนึกที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น