ไม่พบผลการค้นหา
การรถไฟฯ ประกาศงดเดินขบวนรถข้ามจังหวัด 14 ขบวน เพื่อให้สอดคล้องตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (ฉบับที่ 5) แต่ยังเดินรถไฟชานเมืองบริการประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทาง

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 5) ข้อ 5 ลงวันที่ 1 พ.ค. 2563 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 2563 เป็นต้นไป ให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดเว้นแต่มีความจำเป็น ซึ่งต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ทั้งต้องรับการตรวจคัดกรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด ทำให้การเดินทางต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่าปกติและไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง 

ดังนั้น การรถไฟฯ จึงปรับแผนการให้บริการเดินขบวนรถเส้นทางต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดและให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง 

สำหรับประกาศงดเดินขบวนรถโดยสารเชิงพาณิชย์ ขบวนรถเร็ว และขบวนรถโดยสารเชิงสังคม ขบวนรถธรรมดาและขบวนรถท้องถิ่นจำนวน 14 ขบวน ที่มีต้นทางปลายทางข้ามเขตจังหวัดทั้งหมด คือ 1.ขบวนรถเร็วที่ 135 (กรุงเทพ – อุบลราชธานี) 2. ขบวนรถเร็วที่ 136 (อุบลราชธานี – กรุงเทพ) 3. ขบวนรถธรรมดาที่ 201 (กรุงเทพ – พิษณุโลก) 4. ขบวนรถธรรมดาที่ 202 (พิษณุโลก – กรุงเทพ) 5. ขบวนรถธรรมดาที่ 257 (ธนบุรี – น้ำตก) 6. ขบวนรถธรรมดาที่ 258 (น้ำตก – ธนบุรี)  

7. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 415 (นครราชสีมา – หนองคาย) 8. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 418 (หนองคาย – นครราชสีมา) 9. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 421 (นครราชสีมา – อุบลราชธานี) 10. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 426 (อุบลราชธานี – นครราชสีมา) 11. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 439 (ชุมทางแก่งคอย – ชุมทางบัวใหญ่ 12. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 440 (ชุมทางบัวใหญ่ – ชุมทางแก่งคอย) 13. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 489 (คีรีรัฐนิคม – สุราษฎร์ธานี) และ 14. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 490 (สุราษฎร์ธานี – คีรีรัฐนิคม)

ทั้งนี้ ผู้ว่าการ รฟท.ยืนยันว่าการระงับเส้นทางเดินรถดังกล่าวไม่ใช่การหยุดเดินรถทั้งหมดทั่วประเทศ แต่เป็นการหยุดเดินรถสายยาวข้ามเขตจังหวัด โดยย้ำว่าการรถไฟฯ ยังมีรถไฟชานเมืองวิ่งให้บริการประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทาง

สำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางข้ามเขตจังหวัดจะต้องได้รับการตรวจคัดกรองและต้องแสดงเหตุผลความจำเป็น พร้อมหลักฐานการอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรการป้องกันโรงตามที่ทางราชการกำหนด ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่ไม่ประสงค์จะเดินทางสามารถติดต่อขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารที่สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง