ยูนิเซฟ ประเทศไทย ได้เลือกนักแสดงหนุ่ม ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี เป็นตัวแทนภารกิจพิเศษ โครงการไทยช่วยภัยไซโคลน ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนผู้ประสบภัยพายุไซโคลนอิดาอี ที่พัดถล่มหลายประเทศในแอฟริกา ได้แก่ ประเทศโมซัมบิก ประเทศมาลาวี และประเทศซิมบับเว เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งภัยพิบัติครั้งนี้ร้ายแรงที่สุดในรอบ 20 ปี ของแอฟริกาใต้ พายุสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับที่อยู่อาศัย ระบบสาธารณูปโภค พื้นที่เกษตรกรรม ที่แม้เวลาผ่านมา 3 เดือนแล้วแต่ยังส่งผลกระทบต่อประชากร
ฮวน แซนทานเดอร์ รองผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย เผยว่า กว่า 3 ล้านคน และเด็ก อีกว่า 1.6 ล้านคน กำลังเสี่ยงต่อโรคระบาด และภาวะขาดสารอาหารรุนแรง เนื่องจากการขาดแคลนน้ำสะอาด และขาดสุขอนามัยที่ดี ทั้ง อหิวาตกโรค ไข้มาลาเรีย หลายเดือนที่ผ่านมา ยูนิเซฟ ได้ให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้เด็กๆรอดชีวิต แต่ยังขาดทุนทรัพย์อีกมาก จึงจัดทำโครงการ ไทยช่วยภัยไซโคลน เพื่อร่วมระดมทุน และได้ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ มาเป็นตัวแทนภารกิจพิเศษครั้งนี้
ด้าน ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ตัวแทนภารกิจพิเศษของโครงการระดมทุนครั้งนี้ ที่เตรียมเดินทางลงพื้นที่ ไปประเทศโมซัมบิก ในสัปดาห์หน้า เผยว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก ตัวเองดีใจมากที่มีโอกาสต่อยอดอุดมการณ์ของตัวเอง เราคือเพื่อนร่วมโลก เมื่อใดที่ประเทศใดประสบภัยพิบัติต่างๆ ผู้คนทั่วโลก ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เดินทางไปแอฟริกาใต้อีกด้วย
"โดยผมพร้อมทีมงานรายการของผม และทีมงานยูนิเซฟ จะลงไปเยี่ยมเยียนเด็ก ๆ และครอบครัวที่ประสบภัย และนำเรื่องราวมาถ่ายทอดสู่สาธารณชนในประเทศไทย ติ๊กมีแผนจะไปเมืองเบียร่า ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากพายุไซโคลน โดยจะเดินทางไปศูนย์ผู้ประสบภัยฉุกเฉินซึ่งยูนิเซฟไห้ความดูแลในด้านต่าง ๆ อาทิ โภชนาการ การปกป้องคุ้มครองเด็ก และการศึกษา ในส่วนเรื่องความยากลำบาก ผมไม่ได้คำนึงถึงสักเท่าไหร่ ปกติแล้วเวลาเดินทางทำรายการก็ยากลำบากพอสมควร"
ไปครั้งนี้ถึงแม้ว่าเขาอาจจะไม่รู้จัก เจษฎาภรณ์ ผลดี ก็ตาม แต่ว่า เขาอาจจะ นี่คนเอเชียคนหนึ่งที่ได้เดินทางมา แล้วก็ไม่ลืมพวกเขา ให้ความสำคัญกับพวกเขา ผมว่าเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน ถึงแม้ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทางตอนใต้ของแอฟริกาจะดูห่างไกลจากประเทศไทย เมื่อได้ยินเรื่องราวของเด็ก ๆ ที่ต้องสูญเสียบ้านและครอบครัว รวมถึงเรื่องราวของเด็กที่แม้จะรอดชีวิตแต่กลับต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อโรคระบาด และภาวะขาดสารอาหาร เด็ก ๆ หลายคนต้องพลัดพรากจากครอบครัว หรือกลายเป็นเด็กกำพร้า บ้างตกอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร บ้างก็ตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย ถูกเอารัดเอาเปรียบ และต้องขาดเรียน เนื่องจากโรงเรียนถูกแปรสภาพเป็นศูนย์อพยพไปเสียแล้ว ทำให้ผมรู้สึกว่า ในฐานะที่พวกเราทุกคนคือประชากรบนโลกใบเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อถึงกันการสนับสนุนจากคนไทยในเวลาวิกฤตเช่นนี้จะกลายเป็นพลังสำคัญที่จะช่วยชีวิต ช่วยให้เด็กๆ สามารถผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ และกลับมามีชีวิตที่เปินปกติอีกครั้ง"
สำหรับโครงการ #ไทยช่วยภัยไซโคลน ในครั้งนี้ ยูนิเซฟตั้งเป้าระดมเงินบริจาคจำนวนรวม 25 ล้านบาทจากประชาชนไทย จากเป้าหมายการระดมทุนจากทั่วโลกจำนวน 122 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 3.9 พันล้านบาท) ภายในปี 2562 ซึ่งปัจจุบัน ได้รับทุนแล้วเพียงร้อยละ 29 ของการระดมทุนทั้งหมดที่ยูนิเซฟตั้งเป้าไว้เท่านั้น โดยเงินบริจาคจะถูกนำไปช่วยเหลือเด็กและครอบครัวในด้านต่างๆ อาทิ การเข้าถึงน้ำดื่มสะอาด การได้รับวัคซีนป้องกันโรค การรักษาจากภาวะขาดสารอาหารรุนแรง การเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ การเยียวยาทางจิตใจ เป็นต้น นอกจากนี้ เด็กๆ และครอบครัวยังจะได้รับการอบรมเกี่ยวกับการปรับตัวเพื่อการอยู่รอด การดูแลรักษาสุขภาพในสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้ง คำแนะนำด้านโภชนาการ สุขอนามัยที่ดี และการป้องกันตนเองจากอันตรายต่าง ๆ อีกด้วย
SMS : พิมพ์ 100 และส่งมาที่เบอร์ 4712225 (100 บาทต่อ 1 ข้อความ)
ออนไลน์: http://www.unicef.or.th/cyclone
โอนผ่านบัญชีธนาคาร: ธนาคารกรุงเทพ หมายเลขบัญชี 201-3-01324-4
กรณาส่งข้อมูลติดต่อ ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์) พร้อมใบสลิป มาที่ยูนิเซฟ โดยระบุ "ไซโคลน" มาที่
unicefthailand@unicef .org หรือแฟ็กซ์ 02 356 9229