พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส. ตรัง พรรคประชาธิปัตย์, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ตัวแทนจากพรรคประชาชาติ, นิคม บุญวิเศษ ตัวแทนจากพรรคพลังปวงชนไทย ร่วมกันยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ต่อชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร 

โดยพิธา กล่าวว่า สาระสำคัญของร่างฯ คือ การยกเลิกอำนวจของ ส.ว. ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และได้รับการเข้าชื่อจากสมาชิกทั้งหมด 99 คน จาก 13 พรรคการเมือง แบ่งเป็นฝ่ายรัฐบาล 8 พรรค เช่น พรรคประชาธิปัตย์, พรรคภูมิใจไทย แต่ไม่มี ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ ขณะที่ฝ่ายค้าน 5 พรรค เช่น พรรคก้าวไกล, ประชาชาติ, พลังปวงชนไทย ไม่มีพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมลงชื่อ แต่หากพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยกับประเด็นนี้สามารถยื่นร่างประกบได้ และคาดว่ามีโอกาสพิจารณาในการประชุมสภาในสมัยนี้

ด้านสาทิตย์กล่าวว่า ร่างฯ ดังกล่าวเป็นร่างที่ทำร่วมกัน ซึ่งเบื้องต้นพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการยกร่างในประเด็นนี้เช่นเดียวกับพรรคก้าวไกล แต่เนื่องจากแต่ละฝ่ายมีเสียงไม่ครบตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด จึงได้ร่วมพูดคุยและมีความเห็นตรงกันในการแก้ไขประเด็นดังกล่าว จึงร่วมกันเข้าชื่อเพื่อเสนอร่างฯ ต่อประธานสภา พร้อมเปิดเผยว่า ในการเข้าชื่อของ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นมติของพรรค เพราะยังไม่มีมติตั้งแต่แรก แต่ถือเป็นเอกสิทธิของ ส.ส.แต่ละคน โดยในวันนี้ตนเองจะชี้แจงถึงเห็นผลต่อที่ประชุมของพรรคด้วยตัวเอง พร้อมย้ำว่า ปัจจุบันสถานการณ์ภายนอกมีแนวโน้มที่รุนแรงขึ้น อะไรที่สภาทำได้ก็ควรทำ เพื่อลดเงื่อนไขการชุมนุม และ ส.ว. เองส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย และหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจาก ส.ว. 

ส่วนที่มีกระแสว่าพรรคประชาธิปัตย์เล่น 2 ทางนั้น มองว่า เรื่องแก้รัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องเล่น และไม่ใช่ 2 ทาง เพราะเรื่องตั้ง ส.ส.ร.นั้น ส.ส. บางส่วนก็เห็นด้วย แต่ยังมี ส.ส. บางส่วนที่ต้องการแก้ไขมาตรา 272 พร้อมยืนยันว่า การเข้าร่วมลงชื่อกับพรรคก้าวไกลในครั้งนี้ไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง แต่เห็นตรงกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272

โดยชวน กล่าวว่า ตามข้อบังคับคือเมื่อรับร่างฯ แล้วจะส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบองค์ประกอบตามรัฐธรรมนูญกำหนดว่าครบถ้วนหรือไม่ และให้บรรจุในวาระการประชุมภายใน 15 วัน ซึ่งในร่างฯ แรกจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้บรรจุในวาระการประชุมแล้ว ส่วนร่างที่สองจากพรรคร่วมรัฐบาล อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ หากมีการเสนอญัตติในทำนองเดียวกันนี้จะสามารถพิจารณาบรรจุในวาระการประชุมพร้อมกันได้