นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายในสภา และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้อภิปรายเรื่องเศรษฐกิจแบบไม่เข้าใจ หรือ เข้าใจผิดอย่างรุนแรง จึงอยากให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้สอนพล.อ.ประยุทธ์ ในหลักเศรษฐกิจเบื้องต้น อย่าปล่อยให้พล.อ.ประยุทธ์ พูดเหมือนคนไม่รู้เรื่อง ซึ่งจะทำให้เครดิตพล.อ.ประยุทธ์เสียหายอย่างหนักว่าเป็นนายกฯ แต่ไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจเลยแถมยังพูดผิดๆและ เชยๆ เช่น ความจริงคือเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่ำมาตลอด 5 ปี เกิดจากขาดความมั่นใจของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้การส่งออกขยายตัวได้น้อยมาก อีกทั้งรายได้ของประชาชนไม่เพิ่มจึงไม่มีเงินจับจ่ายใช้สอย ไม่ใช่เกิดจากฐานเศรษฐกิจของไทยที่ใหญ่ จึงขยายตัวน้อย
"อย่างที่พล.อ.ประยุทธ์ พูด เพราะประเทศที่ฐานเศรษฐกิจใหญ่กว่าไทย เช่น ประเทศจีน ขยายตัวมากกว่าไทยมากหรือมาเลเซีย ที่ฐานเศรษฐกิจขนาดเท่าๆ กับไทยและกำลังจะแซงไทย ก็ขยายตัวมากกว่าไทยมาตลอด อย่าปล่อยให้ นายกรัฐมนตรีพูดอะไรเฉิ่มๆ เป็นที่ดูถูกของคนที่มีความรู้ทางเศรษฐกิจ อีกทั้งอย่าให้ พล.อ.ประยุทธ์ พูดเหมือนดูถูกคนจนว่าไม่จ่ายภาษี ทั้งที่ คนจนต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มทุกครั้งที่ซื้อสินค้าและบริการอยู่แล้ว และภาษีมูลค่าเพิ่มยังเป็นรายได้สูงสุดของรัฐ" นายพิชัย กล่าว
นายพิชัย กล่าวว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ต้องเอาความจริงมาพูด อย่าโม้เกินจริง เศรษฐกิจไทยไม่ได้เลิศหรูอย่างที่นายสมคิดพูดในสภา เพราะ 5 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยโตเฉลี่ยได้เพียง 3% การส่งออกขยายตัวเฉลี่ยเพียงปีละ 2% กว่าเท่านั้น โดยสื่อหลักต่างประเทศ เช่น ไฟแนนเชียลไทม์ยังบอกว่าไทยยังเป็นคนป่วยของอาเซียนและจะยิ่งป่วยหนัก ซึ่งจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในปีนี้จะยิ่งยืนยันว่าไทยจะป่วยหนักขึ้นแน่ แถมที่นายสมคิดโม้บอกว่าอันดับต่างๆของไทยดีขึ้นนั้น อยากให้นายสมคิดเปรียบเทียบอันดับปัจจุบันกับอันดับก่อนการปฏิวัติ ซึ่งจะพบว่าอันดับยังต่ำกว่าก่อนการปฏิวัติเมื่อ 5 ปีก่อนมาก โดยเฉพาะอันดับความสะดวกในการทำธุรกิจ ที่นายสมคิดคุยนักคุยหนา โดยก่อนปฏิวัติความสะดวกในการทำธุรกิจของไทยอยู่อันดับที่ 18 ปัจจุบันแม้ดีขึ้นแต่ยังอยู่ที่อ้นดับ 27 ซึ่งยังต่ำกว่าของเดิมก่อนการปฏิวัติมาก อย่าคิดว่าจะอาศัยลีลาการพูดเพื่อทำให้ประชาชนหลงเชื่อ แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น อีกทั้ง 5 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจย่ำแย่อย่างไรประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกได้ดี