นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล มองว่าเรื่องสภาล่ม เป็นพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพราะไม่ได้ทำตามมติวิปรัฐบาลนั้นว่า เรื่องดังกล่าว นายวิรัช คงเข้าใจผิดไป กรณีสภาล่มนั้นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนต้องช่วยกันรับผิดชอบในหน้าที่กันทุกคน หน้าที่อยู่ที่ทุกพรรค พรรคพลังประชารัฐก็ต้องควบคุมเสียง ส.ส. ของพรรคตัวเอง และพรรคอื่นๆ แม้แต่ฝ่ายค้านเองก็เช่นกัน ถ้ายึดถือหลักว่าสภาต้องเดินไปข้างหน้าได้เพื่อประชาชนและประเทศ ส.ส. ทุกคนก็ต้องช่วยกันในเรื่ององค์ประชุม ไม่เช่นนั้นก็จะตอบคำถามประชาชนไม่ได้ ญัตติบางเรื่องก็ชัดเจนว่าเป็นเรื่องของสภา ส.ส. ของพรรคที่เป็นเจ้าของญัตติในเรื่องศึกษาผลกระทบจากกฎหมาย คำสั่งในทุกคำสั่ง และไม่ได้เจาะจงคำสั่งที่เกิดจาก ม. 44

ดังนั้นเมื่อญัตติขอให้ตั้ง กมธ. วิสามัญมาตั้งแต่ต้น จะให้ผู้เสนอญัตติไม่ทำตามสิ่งที่ได้เสนอก็ถือเป็นเรื่องที่ผิดหลักการ ต่อไปวิปรัฐบาลก็ต้องดูกันมาก่อน การจะมาแก้กันที่ปลายเหตุก็ลำบาก การลงมติในสภาเป็นกระบวนการหนึ่งในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นการมีเสียงที่เห็นต่างบ้างนั้นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ความสวยงาม 

นายราเมศ กล่าวว่า สำหรับในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ จะได้มีการพูดคุยกันในการประชุม ส.ส. วันที่ 3 ธ.ค. 2562 เวลา 13.00 น. พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีกลเกมใดๆ ในเรื่องดังกล่าว การที่พรรคฯ ร่วมรัฐบาล ก็ต้องทำหน้าที่ที่รับผิดชอบอย่างดีที่สุด หัวหน้าพรรคเดินหน้าทำงานในแต่ละวันอย่างไม่มีวันหยุด ซึ่งจะเห็นชัดว่าเป็นการเดินหน้าเพื่อพี่น้องประชาชนและความสำเร็จก็เป็นที่ประจักษ์ ดังนั้นขอให้ทุกฝ่ายอย่าได้กังวล สำหรับในส่วนของสภา ก็เชื่อว่า ส.ส. ทุกคนคิดได้ว่าเวลาในแต่ละวันที่ผ่านไปมันเร็วและสิ่งที่ ส.ส. ทุกคนตั้งใจก็คือ ทำทุกวินาทีให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ถ้าสภาเดินหน้าไม่ได้ทุกคนก็ต้องตอบคำถามพี่น้องประชาชนให้ได้ว่าเพราะอะไร เพราะประโยชน์ส่วนตนหรือเพื่อประชาชนโดยส่วนรวม