จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต บางรัก สาทร ปทุมวัน และ โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่เขตสาทร พร้อมกับ พิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ โดยได้พบกับประชาชน ผู้ประกอบการ และ นักลงทุน โดยประชาชนส่วนใหญ่ประสบปัญหาเหมือนเขตบางรัก คือมีหนี้สินจำนวนมาก รายได้ไม่พอชำระหนี้ เศรษฐกิจฝืดเคือง และพ่อค้าแม่ค้าหลายคนถูกห้ามขายของในช่วงที่มีการประชุม APEC ทำให้ขาดรายได้อย่างมาก ผู้ประกอบการส่วนใหญ่บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าค้าขายแย่ รายได้ยังไม่ฟื้น นักท่องเที่ยวยังไม่เข้ามาเหมือนเก่า อยากเห็นรัฐบาลใหม่ที่บริหารเศรษฐกิจดีกว่านี้ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังกลัวว่าจะถูกเรียกภาษีย้อนหลังจากการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งกับภาครัฐแล้วต่อมาผู้ประกอบการหลายคนถูกเรียกภาษีย้อนหลัง ทำให้ต้องปิดกิจการไปเพราะการค้าขายก็แย่และต้องมาโดนเก็บภาษีย้อนหลังอีก
นอกจากนี้ยังได้พบกับนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์และลงทุนในคลิปโต ซึ่งปัจจุบันราคาคลิปโตล่วงลงอย่างมาก โดยราคาบิดคอยน์ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ $16,000 - $17,000 เท่านั้น ทำให้ขาดทุนกันถ้วนหน้า และยังมีแนวโน้มที่ราคาจะลดลงอีก จากการล้มละลายของบริษัท FTX ที่เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตรายใหญ่ของโลก ซึ่งนักลงทุนจะต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุน และปัญหาการปั่นหุ้นทุบหุ้นของบริษัท More ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดหลักทรัพย์ของไทยอย่างมากเช่นกัน และอยากให้รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ มีมาตราการที่เข้มงวดมากขึ้น อีกทั้งดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยก็ผันผวนอยู่ในระดับนี้มานานหลายปีแล้ว แทนที่จะพุ่งขึ้นมากกว่านี้ ซึ่งสะท้อนเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวตัวต่ำและนิ่งมานานเช่นกัน
ทั้งปัญหาหนี้สิน ปัญหาการเก็บภาษีย้อนหลัง และดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่หยุดนิ่ง เกิดมาจากการบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาดของรัฐบาล ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจก็จะเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อลดหนี้ของประชาชน เพิ่มรายได้ และ สร้างโอกาสใหม่ๆให้กับประชาชนได้ เศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้น และ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะพุ่งสูงกว่านี้อีกมาก โดยเฉพาะการต้องเร่งเพิ่มรายได้ ประชาชนจะได้ไม่ลำบากกันมากเหมือนในปัจจุบัน