นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป ในฐานะผู้บัญชาการของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่จะอนุญาตให้คนไทยกลับเข้ามาผ่านจุดผ่านแดนถาวรในพื้นที่จังหวัดชายแดน โดยขอให้ประชาชนมั่นใจว่าประเทศไทยดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเข้มข้นและต่อเนื่องมาโดยตลอด ด้วยการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ (ท่าอากาศยาน ท่าเรือ และด่านพรมแดนทางบก) ในสถานพยาบาล (ทั้งภาครัฐและเอกชน) และการเฝ้าระวังในชุมชน
สำหรับคนไทยที่จะเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย โดยผ่านจุดผ่านแดนถาวรในพื้นที่จังหวัดชายแดนในระยะนี้ ตามจำนวนที่กำหนดล่วงหน้าแต่ละวัน ในแต่ละช่องทาง ซึ่งทุกคนจะเข้าสู่ระบบการตรวจคัดกรอง วัดไข้ เฝ้าระวังสังเกตอาการและดูแล ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ของประเทศไทย
ผู้ที่จะเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยต้องมีเอกสารสำคัญประกอบการเดินทาง 2 ฉบับ คือ 1.ใบรับรองแพทย์ หรือ fit to travel และ 2.หนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศ ที่ออกโดยสถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุลใหญ่ไทยประจำประเทศที่พำนัก ซึ่งระบุรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เดินทาง ช่องทางผ่านแดนที่จะเดินทางกลับ วันที่จะเดินทาง จังหวัดที่พำนักอาศัยหรือจังหวัดภูมิลำเนาในประเทศไทย และลายมือชื่อของผู้เดินทางที่ลงนามรับทราบ และยินยอมรับการกักตัวในสถานที่ที่รัฐกำหนด หรือ Local Quarantine เป็นเวลา 14 วันตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคของภาครัฐ อันเป็นประโยชน์กับผู้เดินทางที่จะได้รับการดูแลวินิจฉัยโรคที่รวดเร็วหากติดเชื้อ และสร้างความปลอดภัยให้กับสังคมส่วนรวม
นพ.โสภณ กล่าวว่า ในแต่ละจังหวัดได้เตรียมความพร้อมในการดูแลคนไทยที่จะถูกกักตัวเพื่อเฝ้าระวังสังเกตอาการในสถานที่ที่รัฐกำหนด เป็นเวลา 14 วันตามมาตรการป้องกันควบคุมที่กำหนด โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ท้องถิ่น เอกชน และภาคประชาชน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ ผู้เดินทางได้รับการดูแลใกล้ชิด และประเทศไทยสามารถป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: