จากกรณีนักกิจกรรมจำนวนหนึ่งถูกคุกคามจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการชุมนุมรำลึกวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน ในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวนักกิจกรรมถึงที่พักอาศัย โทรศัพท์ข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม เจรจาไม่ให้ผู้ชุมนุมใช้สถานที่ รวมถึงการขอข้อมูลส่วนตัวของผู้เข้าร่วมชุมนุมจากผู้จัด
โดย ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่าทางการไทยต้องยุติการดำเนินการใดๆ เพื่อคุกคามหรือสร้างความหวาดกลัวในการทำงานของนักกิจกรรมและนักปกป้องสิทธิมนุษยชน พร้อมทั้งสนับสนุนให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และส่งเสริมนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและบุคคลอื่น ๆ ให้สามารถใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออก และการชุมนุมอย่างสงบ โดยปราศจากการข่มขู่ คุกคามและการฟ้องร้องดำเนินคดี
“รัฐบาลต้องทำให้ประชาชนมั่นใจว่าจะเคารพและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของทุกคนในประเทศ รวมถึงผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและผู้มีความเห็นต่างทางการเมืองด้วย เสรีภาพในการแสดงออก และสิทธิในการชุมนุมโดยสงบของประชาชน จะต้องได้รับการคุ้มครองอย่างถ้วนหน้า”
“การดำเนินการตามมาตรการเพื่อรับกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ต้องเป็นไปอย่างได้สัดส่วนและเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น รัฐบาลต้องหลีกเลี่ยงการสร้างข้อจำกัดต่อการชุมนุมอย่างสงบในที่สาธารณะใด ๆ เมื่อผ่านพ้นช่วงการกักตัว โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ชุมนุมจัดให้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในระหว่างการประท้วง”
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุเพิ่มเติมว่า ขอให้ทางการไทยประกันให้เกิดสภาพแวดล้อม ที่บุคคลทุกคนสามารถรวมตัว แสดงออกและแลกเปลี่ยนความเห็นได้อย่างสงบ พร้อมทั้งหยุดดำเนินคดีต่อนักกิจกรรม และนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่เคลื่อนไหวอย่างสงบ และยังเรียกร้องทางการไทยให้ปฏิบัติตามพันธกรณี ภายใต้กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศที่จะไม่ควบคุมตัวคุกคาม หรือลงโทษบุคคล เพียงเพราะการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกหรือการชุมนุมอย่างสงบ
อ่านเพิ่มเติม