ไม่พบผลการค้นหา
'ดร.นลินี' ร่วมงานหอการค้าอินเดีย–ไทย เดินหน้าขยายเศรษฐกิจ–ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย–อินเดีย จัดใหญ่ Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025 พร้อมผลักดันเป้าหมายการค้าแตะ 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ดร.นลินี ทวีสิน ประธานผู้แทนการค้าไทย ได้รับเชิญในฐานะแขกเกียรติยศ กล่าวเปิดงาน “Connections & Converse: An Evening with the India–Thai Chamber of Commerce” เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 ซึ่งจัดโดยหอการค้าอินเดีย–ไทย (India–Thai Chamber of Commerce: ITCC) ณ โรงแรม SILQ Hotel & Residence โดยมี H.E. Mr. Nagesh Singh เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย, Mr. Sushil Kumar Dhanuka ประธาน ITCC, นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานอาวุโสหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, Mrs. Vibeke Lyssand Leirvag ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติจากแวดวงธุรกิจอินเดีย–ไทยเข้าร่วมอย่างคับคั่ง

ในปัจจุบัน หอการค้าอินเดีย–ไทย (ITCC) มีสมาชิกประมาณ 400 บริษัท ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจหลัก อาทิ อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ อุตสาหกรรม และบริการด้านโรงแรม โดยในงานครั้งนี้มีตัวแทนจากบริษัทชั้นนำที่เป็นสมาชิกของ ITCC เข้าร่วมอย่างหลากหลาย อาทิ Indorama Ventures, Tata Consultancy Services (Thailand), Christiani & Nielsen (Thai) Public Company Limited, Rhenus Logistics, Bangkok Marriott Sukhumvit, Atlantic Food Products, และ Siamese Company Limited ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจของภาคธุรกิจอินเดีย–ไทย ที่ครอบคลุมตั้งแต่เทคโนโลยี โลจิสติกส์ อาหาร สิ่งทอ ไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์และการบริการ

ดร.นลินี กล่าวชื่นชมบทบาทของ ITCC ว่าเป็นกลไกสำคัญที่ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจของทั้งสองประเทศ และยังเป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐกับเอกชน ช่วยผลักดันให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนและการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ทั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลไทยในการยกระดับความสัมพันธ์ไทย–อินเดีย สู่ระดับ “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” ภายใต้ถ้อยแถลงร่วมที่นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้ลงนามเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ระหว่างการเยือนประเทศไทยของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ในโอกาสการประชุมสุดยอด BIMSTEC ที่กรุงเทพฯ

ดร.นลินี ระบุว่า ในปีที่ผ่านมา มูลค่าการค้าไทย–อินเดียอยู่ที่ 17.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเกือบ 9% และทั้งสองฝ่ายมีเป้าหมายร่วมกันในการเพิ่มมูลค่าการค้าสู่ 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2570 ผ่านการเชื่อมโยงระบบคมนาคมทางบก ทางอากาศ และทางทะเล รวมถึงการลดอุปสรรคทางการค้า และการเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในมิติต่าง ๆ โดยไทยยังให้ความสำคัญกับการเรียนรู้จากจุดแข็งของอินเดียในด้านเทคโนโลยีอวกาศ ปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีชีวภาพ ยานยนต์ไฟฟ้า และซอฟต์แวร์ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมใหม่ของไทย โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และไทยซิลิคอนวัลเลย์

ในด้านการเชื่อมโยงระดับประชาชน ดร.นลินี เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบหมายให้เป็นประธานอนุกรรมการส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ภายใต้นโยบาย Soft Power ของรัฐบาล โดยได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหน่วยงานต่าง ๆ เตรียมจัดงาน “Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025” เทศกาลเฉลิมฉลองดิวาลีครั้งยิ่งใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งจะจัดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศในช่วงเดือนตุลาคม โดยมีเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทยร่วมเป็นกำลังสำคัญในการประสานงานกับหน่วยงานฝ่ายอินเดีย เพื่อยกระดับเทศกาลนี้ให้เป็นแม่เหล็กสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวอินเดียและชาวต่างชาติทั่วโลก

“เทศกาล Diwali ในประเทศไทยจะไม่เหมือนที่ใดในโลก เพราะนอกจากการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมอินเดียแล้ว เรายังตั้งใจนำเสนอศักยภาพของสินค้า บริการ แหล่งท่องเที่ยว และอัตลักษณ์ความเป็นไทย เพื่อสร้างความประทับใจและกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วประเทศ” ดร.นลินี กล่าว

ท้ายที่สุด ดร.นลินีได้ใช้โอกาสนี้เชิญชวนภาคเอกชนอินเดียในไทยร่วมสนับสนุนการจัดงานดิวาลี ผ่านความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตอินเดีย โดยย้ำว่า เทศกาลแห่งแสงสว่างนี้คือโอกาสสำคัญในการร่วมกันจุดแสงแห่งมิตรภาพและความมั่งคั่งระหว่างไทยและอินเดียให้เปล่งประกายยิ่งขึ้นในระดับภูมิภาคและระดับโลก