แกมเบียได้ยื่นเอกสารฟ้องร้องเมียนมา 46 หน้าให้กับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งกล่าวหาว่าเมียนมาสังหารหมู่ ข่มขืน และทำลายชุมชนต่างๆ ในรัฐยะไข่ และหาก ICJ รับฟ้องคดีนี้ จะถือเป็นครั้งแรกที่ศาลในกรุงเฮกจะสอบสวนข้อกล่าวหาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญาด้วยตัวเอง ไม่พึ่งพาข้อมูลที่ศาลอื่นๆ รวบรวมมา โดยมีการคาดการณ์ว่า จะมีการนัดไต่สวนเบื้องต้นในเดือนธ.ค.นี้

ตามกฎของ ICJ ประเทศสมาชิกสามารถยื่นฟ้องประเทศสมาชิกอื่นๆ เกี่ยวกับความขัดแย้งที่อาจละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งกรณีนี้แกมเบียระบุว่า เมียนมาละเมิดอนุสัญญาปี 1948 ว่าด้วยเรื่องการป้องกันและลงโทษอาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

แกมเบียเป็นสมาชิกองค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) และได้รับการสนับสนุนจากประเทศมุสลิมอีกหลายประเทศในการฟ้องร้องเมียนมา โดยแกมเบียเขียนในเอกสารฟ้องร้องว่า “แกมเบียเป็นประเทศเล็กๆ ที่พูดเสียงดังในเรื่องสิทธิมนุษยชนในทวีปนี้และทั่วโลก”

เมื่อเดือนต.ค.ปี 2016 กองทัพเมียนมาเริ่มปฏิบัติการกวาดล้างชาวโรฮิงญา ซึ่งแกมเบียอธิบายว่า “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ระหว่างปฏิบัติการนี้มีจุดประสงค์เพื่อทำลายชาวโรฮิงญา... ด้วยการสังหารหมู่ ข่มขืน การล่วงละเมิดทางเพศอื่นๆ รวมถึงการเผาทำลายหมู่บ้านอย่างเป็นระบบ โดยที่ยังมีคนถูกขังไว้ในบ้านเหล่านั้น” อีกทั้งยังมีการเผาทำลายมัสยิด ร้านค้าและคัมภีร์อัลกุรอาน นอกจากนี้ เฟซบุ๊กยังได้ออกมาเปิดเผยเองว่าโพสต์ที่โจมตีชาวโรฮิงญามีความเชื่อมโยงโดยตรงกับกองทัพเมียนมา

แกมเบียเรียกร้องให้มีการลงโทษคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหาย รวมถึงเรียกร้องให้มีการยุติการโจมตีชาวโรฮิงญาโดยทันที

ที่มา : The Guardian, BBC