ไม่พบผลการค้นหา
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สนธิกำลังเร่งดับไฟป่าบนอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย หลังไฟไหม้รุนแรงติดต่อกัน 3 วัน เบื้องต้นพบเสียหายแล้ว 200 ไร่

นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวถึงสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่ ที่ไหม้หนักต่อเนื่องติดต่อกันมา 3 วัน จนเกิดหมอกควันฝุ่นละออง PM2.5 หนาแน่นปกคลุมสูงกว่า 200 ไมโครกรัมลูกบาศก์เมตร ว่าเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ ทหารทุกหน่วยงาน และประชาชนได้ช่วยกันดับไฟจนสามารถควบคุมไฟป่าได้บางจุดให้อยู่ในวงจำกัดไม่ลุกลามในวงกว้าง ยกเว้นบริเวณพื้นที่หอดูดาวดอยสุเทพ (กม.17) และดอยหัวหมู่บ้านม้งดอยปุยไฟป่ายังลุกไหม้อยู่ จึงส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดับไฟในพื้นที่แล้วกว่า 60 นาย 

ภาพรวมประเมินเกิดความเสียหายรอบใหม่ประมาณ 200 ไร่ ส่วนใหญ่เกิดไฟไหม้ช่วงพื้นที่ล่างและต้นไม้ใหญ่ไม่ได้รับความเสียหายจากไฟป่า สาเหตุเกิดจากมีคนลักลอบจุดไฟในเขตป่าแล้วลุกลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว เนื่องจากกระแสลมแรงยิ่งพัดให้ลูกไฟสูงแล้วกระโดดไหม้กระจายไปตามพื้นที่อื่นๆ ใกล้เคียงทำให้เข้าสกัดไฟค่อนข้างยากมาก ตั้งแต่น้ำตกมณฑาธารไปด้านบนดอย บริเวณผาดำจนเริ่มควบคุมไฟจุดนี้ได้แล้ว

ภาพรวมไฟป่าบนดอยสุเทพถือว่าอยู่ในช่วงคับขันและรุนแรงจึงต้องเน้นปฏิบัติการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนด้วยการดึงเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเข้ามาเป็นกำลังเสริม 140 นาย ทหาร 20 นาย กรมป่าไม้ 30 นาย และชาวบ้านในพื้นที่ จากเดิมมีเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าบนดอยสุเทพอยู่เพียง 200 นายควบคู่กับส่งเจ้าหน้าที่เดินเท้าอีกส่วนหนึ่งเพื่อดับไฟในจุดที่เฮลิคอปเตอร์บินดับไม่ได้ แต่มีอุปสรรคพื้นที่เป็นภูเขาและหน้าผาสูงชันเสี่ยงอันตรายมากและมีกระแสลมแรงซึ่งเจ้าหน้าที่ค่อนข้างสาหัส จากการดับไฟป่าติดต่อกัน 3 วัน ภาพรวมยังไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บและได้ปรับแผนสลับสับเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่ไม่ให้เกิดความอ่อนล้า จนอาจเป็นอันตรายระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้    

รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวย้ำว่า กรมอุทยานฯ ท้องถิ่นและชาวบ้านกว่า 622 นาย ได้วางกำลังเจ้าหน้าที่เป็นจุดๆ ควบคุมจุดเสี่ยงบริเวณดอยสุเทพ เช่น หางดง แม่ริม และบริเวณถนนเส้นต่างๆ ที่เป็นจุดล่อแหลมพร้อมทั้งออกคำสั่งห้ามบุคคลใดเข้าป่า เพื่อป้องกันการลักลอบเผาป่าเด็ดขาดและไม่ให้เกิดการจุดไฟขึ้น หากพบเจอจะถูกจับกุมแล้วดำเนินคดีทางกฎหมายทันที 

ในเบื้องต้นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้นำเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำขึ้นบินขนน้ำดับไฟป่าตลอดทั้งวันซึ่งเมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมาขนน้ำไปแล้วกว่า 40 เที่ยวเฉลี่ยขนน้ำดับไฟเที่ยวละ 500 ลิตรรวมถึงยังได้รับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากทหารด้วยโดยน้ำในพื้นที่มีเพียงพอใช้ดับไฟป่าแม้ประสบปัญหาภัยแล้ง