ไม่พบผลการค้นหา
'สุพิศาล' ชี้นายกฯ ควรเลือกแคนดิเดต 'เบอร์ 1' เป็น ผบ.ตร. เหตุอาวุโสสูงสุด เชื่อไร้คลื่นใต้น้ำ แต่หากเลือกไม่ได้ ควรเลื่อนออกไปก่อน

วันที่ 27 ก.ย. ที่อาคารรัฐสภา พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล อดีตผู้บังคับการกองปราบปราม ให้ความเห็นถึงกรณี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่จะมีการประชุม วาระสำคัญเพื่อเลือกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)

โดย พล.ต.ต.สุพิศาล ระบุว่า นายกรัฐมนตรีมีอำนาจตามมาตรา 77 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ โดยเลือกรอง ผบ.ตร. ที่มีอาวุโส ประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ ในการสืบสวนปราบปราม ซึ่งเป็นมาตราที่บังคับให้นายกฯใช้ดุลยพินิจ ในฐานะผู้นำองค์กรในการคัดเลือก

ส่วนปัจจุบันที่มีเหตุการณ์โอนย้านถ่ายอำนาจของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่เป็นแคนดิเดต ผบ.ตร. แต่มีการตรวจค้นบ้าน และพบว่าลูกน้องมีความเกี่ยวข้องเส้นเงินเว็บพนันออนไลน์ ก็เป็นเรื่องประจวบเหมาะ แต่ไม่เกินคาดเดา เพราะเป็นแคนดิเดตที่คนเฝ้ามองอยู่แล้ว 

อย่างไรก็ตาม วันนี้เร็วที่สุดคือการเลื่อนการตั้ง ผบ.ตร. ออกไป และหากให้นิ่งที่สุดคือการเลือกแคนดิเดตหมายเลข 1 จากคุณลักษณะเฉพาะ และมองว่าหากแต่งตั้งแล้วแทบจะไม่มีคลื่นใต้น้ำ

“เชื่อว่าจะเป็นที่ยอมรับของสังคมตำรวจ เพราะ พ.ร.บ.ตำรวจฯฉบับนี้ มุ่งเน้นอาวุโส ประสบการณ์ ความรู้ ซึ่งแคนดิเดตฯคนที่ 1 มีครบถ้วนแน่นอน แต่คนอื่นๆก็มี อยู่ที่นายกฯจะชี้แจงเหตุผลอย่างไร ซึ่งจะมีคณะกรรมการ 6 ตำแหน่งจะเป็นตัวชี้ จากการนำเสนอวิสัยทัศน์ของแคนดิเดต รอง ผบ.ตร. ถ้านำเสนอคนที่มีเหตุผลน้อยที่สุด นายก ก็ต้องชี้แจง และฟันธง” พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าว   

เมื่อถามว่า การตั้ง ผบ.ตร.รอบนี้มีข้อแคลงใจเยอะ ควรต้องเลื่อนการประชุมวันนี้เพื่อเคลียร์ปัญหาก่อนหรือไม่ พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า หากประชุมคงมีผลกระทบในที่ประชุมถึงข้อครหา ดีที่สุดคือชักออกจากบัญชี และพิจารณาแค่ 3 คน แต่ถ้าไม่ชักออกแล้วต้องการดันต่อ ก็เลื่อนการพิจารณาออกไป แต่ก็มีความจำเป็นต้องเอาเบอร์ 1 มารักษาการ แต่ถ้านายกฯ ใช้อำนาจเลือกเบอร์ 4 มารักษาการ ก็จะมีรักษาการยาวเหยียด ไม่ผ่านการประชุมของ ก.ตร.

“มีกระแสคลื่นใต้น้ำแน่นอน เพราะมีการเขียนคำร้อง เนื่องจากเบอร์ 1 มีสิทธิฟ้องร้องคณะกรรมการฯ ที่เกี่ยวข้องกับการร้องเรียน ซึ่งใช้เวลา 30 วัน คงรู้ผลแพ้ชนะ” พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าว 

ส่วนหากมีคลื่นใต้น้ำเป็นไปได้หรือไม่ที่จะได้ผบ.ตร.ส้มหล่น พล.ต.ต.สุพิศาล หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า ก็เป็นไปได้ แต่ตามสิทธิก็ถือว่าไม่ได้ส้มหล่น

 เมื่อถามว่า การที่นายกฯเป็นพลเรือนจะทำให้ตัดสินใจยากขึ้นหรือไม่ พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า เป็นพลเรือนก็ง่ายขึ้น มีความสะดวก ถ้าการพิจารณาของนายกรัฐมนตรีไม่เป็นไปตามอาณัติใคร

ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังมีโอกาสที่จะได้เป็น ผบ.ตร.ในอนาคตหรือไม่ พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า ถ้ายังอยู่ก็ต้องได้เป็น ครั้งหน้าถ้าตั้งใจทำงาน ไม่มีข้อครหา เขาก็ต้องได้ แต่แน่นอนว่าต้องมีกระบวนการเตะตัดขาอยู่แล้ว เพราะจัดอยู่ในพวกเหาะเหินเดินอากาศได้   

พล.ต.ต.สุพิศาล ยังประเมินว่า ดีที่สุดคือเลือกแคนดิเดตเบอร์ 1 ได้ ยึดตามกฎหมาย ระบบอาวุโส ความรู้ ความสามารถ ผ่านงานสืบสวนสอบสวน เบอร์ 1 จึงน่าจะเหมาะสมที่สุด เพราะอาวุโสกว่าคนอื่นๆ จะมีคลื่นใต้น้ำน้อยสุดหรือแทบจะไม่มีเลย เพราะอยู่อีกแค่ปีเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามลำดับอาวุโส ผู้ที่มีโอกาสได้เป็น ผบ.ตร.คนใหม่ อาวุโสอันดับ 1 คือ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจ อาวุโสลำดับที่ 2 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อาวุโสลำดับที่ 3 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสลำดับที่ 4 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.