ที่บริเวณสนามหลวง เวลาประมาณ 11.30 น. สมาชิกกลุ่มการ์ดอาสา We Volunteer หรือ วีโว่ นำโดยปิยรัฐ จงเทพ หรือ ’โตโต้’ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ราว 1 กองร้อย เข้าปิดล้อมเครื่องเสียงหลังจากที่ทางกลุ่มได้ประกาศจัดงานเผากุ้ง เคาน์ดาวน์ 2021 ในเวลา 18.00 น. และจะเปิดขายกุ้งออนไลน์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรฟาร์มกุ้ง จ.นครปฐม จากพิษเศรษฐกิจโควิด-19 ในเวลา 11.00 น. ผ่านเพจ We Volunteer เมื่อคืนนี้ (30 ธ.ค.63)

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.อ. อรรถวิทย์ สายสืบ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (รอง ผบก.น.1) ในฐานะรักษาราชการแทน ผบก.น.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ. สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม เข้าเจรจาขอให้ยุติกิจกรรม และสั่งห้ามขายของบนพื้นที่สาธารณะอย่างเด็ดขาด หลังจากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ประมาณ 1 กองร้อย พร้อมอาวุธโล่และกระบองเข้าควบคุมพื้นที่ดังกล่าวและเตรียมรื้อถอนถอนเต็นท์ แต่ทางกลุ่มวีโว่ไม่ยินยอม จึงเกิดความชุลมุนกัน ก่อนจะควบคุมตัว ‘โตโต้’ และสมาชิกกลุ่มการ์ดอาสา ไปยัง สน.ชนะสงคราม และทำการปิดประตูสนามหลวง

ปิยรัฐ กล่าวผ่านไลฟ์สดว่า เขาเพียงแค่ต้องการพาพี่น้องเกษตรกรฟาร์มกุ้งจากจังหวัดนครปฐมที่ได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจโควิด-19 มาขายที่ท้องสนามหลวง เนื่องจากเป็นพื้นที่กว้างขวางและโล่งแจ้ง รวมถึงได้ประชาสัมพันธ์ว่าจะเป็นการซื้อขายออนไลน์และจะทำการจัดส่งถึงบ้าน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 แต่ทางตำรวจก็ไม่ยินยอม

"แทนที่จะเป็นหน้าที่รัฐบาลที่จะจัดพื้นที่ในการจำหน่ายให้กับเขา พวกคุณปิดตลาดเขาไปแล้วเขาจะไปที่ไหน คุณกลับเพิกเฉยไม่สร้างตลาดขึ้นมาเพื่อให้เขาจำหน่าย ฉะนั้นเราจึงอาสามาทำให้" ปิยรัฐ กล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สมาชิกกลุ่มการ์ดอาสาดังกล่าวถูกควบคุมตัว ประชาชนและสมาชิกที่เหลือยังคงเดินทางไปขายกุ้งต่อที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว โดยขายกุ้งกิโลกรัมละ 359 บาท และมีประชาชนจำนวนมาก เข้าไปต่อแถวซื้อกุ้งนอกจากนี้ ยังเปิดขายออนไลน์ โดยคิดค่าส่งตามระยะทาง

ต่อมาเวลา 14. 10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ได้เข้ามากระชับพื้นที่ โดยตั้งแนวตั้งแต่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และแยกคอกวัว ก่อนจะตีวงล้อมปิดหัวท้าย และไล่จับชุดการ์ด ที่นำแผงเหล็กมากั้นแนวตำรวจไว้ ทำให้กลุ่มวีโว่ต้องสลายตัว บางส่วนวิ่งหนีเข้าไปในซอยที่อยู่บริเวณใกล้เคียง 

จากนั้นตำรวจได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ให้ผู้จัดกิจกรรมยุติกิจกรรม และ ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้อง ออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ ประกอบกับเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หากจะจัดงานต้องขออนุญาตผู้ว่าราชการจังหวัด 

ต่อมาตำรวจได้ปิดล้อมรถที่บรรทุกกุ้งหนักประมาณ 3 ตัน ทำให้กิจกรรมต้องยุติลง ขณะเดียวกัน ประชาชนและกลุ่มที่มารอซื้อกุ้ง ก็ได้แสดงความไม่พอใจที่ตำรวจขัดขวางการจัดกิจกรรม แต่ก็ยังรอติดตามสถานการณ์อยู่โดยรอบพื้นที่ 

ตัวแทนการ์ดวีโว่ ได้เจรจรา กับ พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รอง ผบก.น.1 รักษาราชการแทน ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม นานกว่า 30 นาที โดยตัวแทนการ์ดระบุว่า ตำรวจได้ให้ทางกลุ่มย้ายรถขายกุ้งออกนอกพื้นที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ซึ่งจากนี้ทางกลุ่มจะนำกุ้งไปน็อคน้ำแข็งที่บริเวณกองสลากเก่า ส่วนตำรวจจะยอมให้ขายต่อหรือไม่ คงต้องพูดคุยกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตามตนจะพยายามขายกุ้งที่นำมาจากเกษตรกรให้หมด

จากนั้น ทางตำรวจได้เข้าเคลียร์พื้นที่ และเปิดการจราจรถนนราชดำเนินบริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา โดยมีประชาชนที่ไม่พอใจ ตะโกนด่าทอตำรวจ และไล่ให้ทำหน้าที่จับกุมคนที่ทำผิดกฎหมายมากกว่าจะมาขัดขวางการช่วยเหลือเกษตรกร

ขณะที่ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เวลา 15.30 น. ที่ บก.ตชด.ภาค 1 มี ปชช.รวม 16 คนที่ถูกจับกุมจากกิจกรรมขายกุ้งเผาของกลุ่ม We Volunteer โดย 12 คนถูกจับกุมที่สนามหลวง และอีก 4 คนที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ และใน 16 คนนี้มีเยาวชน 2 คน ขณะนี้ จนท.กำลังเริ่มทำบันทึกจับกุม

โดยตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาต่อกลุ่มผู้จัดกิจกรรมทั้งหมดดังนี้ 

1.ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกันหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย, ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค 

2.กระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป

3.ร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 มาตรา 4 ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกิน 200 บาท

ขณะที่เวลาประมาณ 16.00 น. แฮชแท็ก #ม๊อบย่างกุ้ง ติดเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์ด้วยจำนวน 3 แสนกว่าทวิต โดยแฮชแท็กดังกล่าวมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเข้าจับกุมกลุ่มการ์ดอาสา We Volunteer

โรมติงตำรวจน่าละอาย

รังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า เป็นเรื่องที่น่าละอายที่เจ้าหน้าที่ไล่จับกุมประชาชนขายกุ้ง พร้อมตั้งคำถามว่าเจ้าของตำรวจหรือใครกันแน่

"การมาจับประชาชนที่มาจัดกิจกรรมขายกุ้งกันแล้วอ้างว่าเพราะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ มันน่าละอายมากๆ 

"ที่ประชาชนต้องออกมาขายกุ้งกันเอง ก็เพราะ รบ และตำรวจหย่อนยานในหน้าที่จนปล่อยให้โควิดระบาดได้อีกครั้ง แค่นั้นยังไม่หนำใจ พวกคุณยังจะมาขัดขวางพวกเขาไม่ให้ช่วยกันเองอีก

"เจ้าของตำรวจคือใครกันแน่ ? ผมเคยนึกว่าคือประชาชน" ส.ส.พรรคก้าวไกล โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก