เวลา 18.00 น. วันที่ 1 เม.ย. 2564 ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค พรรคร่วมฝ่ายค้าน 6 พรรคนัดพบปะรับประทานอาหารค่ำเนื่องในโอกาสครบรอบ 2 ปีของการลงนามในปฏิญญาแลงคาสเตอร์พรรคการเมืองฝ่ายค้านที่ร่วมลงนามจะเป็นพันธมิตรร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2562 โดยพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยขณะนั้นมี ส.ส.จำนวน 251 คน ต่อมาถูก กกต.คำนวณสูตรระบบจัดสรรปันส่วนผสมจนทำให้เสียงของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเหลือจำนวนไม่เกินกึ่งหนึ่งของสภาฯ ทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยปัจจุบัน 6พรรคฝ่ายค้านมี ส.ส.อยู่จำนวน 212 เสียง

โดย สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวย้ำถึงภารกิจการทำงานของฝ่ายค้านตลอดปีที่ได้ขับเคลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และยืนยันที่จะดำเนินการต่อที่จะยึดหลักปัญหา 4 ประเด็น คือ "ระบบการเลือกตั้ง-ที่มาและอำนาจของส.ว.-ยุทธศาสตร์ชาติ-และความเป็นไปได้ที่จะคงไว้ในองค์กรอิสระ" และหลังจากนี้จะจัดสัญจรเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้ง 4 ภาค โดยยังคาดหวังทุกพรรคจะยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ที่ทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติ ไม่ยอมจำนนต่อการสืบทอดอำนาจและการกระทำที่ไม่ถูกต้องของรัฐบาล 

ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า เห็นสอดคล้องกับ ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่ยังวิงวอนให้ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฉบับนี้ผ่านได้ด้วยดี ก่อนจะย้ำว่าหากเกิดอะไรกับกฎหมายฉบับดังกล่าว รัฐบาลจะต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างใดอย่างหนึ่ง 

ด้าน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล วิเคราะห์ปัญหาการเมืองไทยยังไม่พบทางออก ขณะเดียวกันประเมินว่าอุณหภูมิทางการเมืองยังร้อนมากขึ้น หากแต่ 6 พรรคฝ่ายค้านทำงานอย่างแข็งขันก็เชื่อว่าจะเป็นปากเสียงให้ประชาชน เพื่อเสนอวิสัยทัศน์ที่เป็นความหวังให้ประชาชน ด้วยเชื่อว่าสักวันจะได้เป็นรัฐบาลที่เป็นความหวังให้ประชาชนได้ 

ส่วน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ฝากให้พรรคการเมืองพรรคเล็กช่วยสนับสนุนฝ่ายค้านที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อต่อสู้กับเผด็จการให้ได้

ขณะที่ วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวขอบคุณประชาชน ที่ให้การสนับสนุนการทำงานของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นกำลังใจในการต่อสู้ พร้อมย้ำที่จะเดินหน้าต่อสู้ เพราะสงครามยังไม่เลิก โดยให้คำมั่นว่าฝ่ายค้านยังพร้อมทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติต่อไป พร้อมกันนี้เชื่อว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่ครบ 4 ปี ก่อนจะยืนยันอีกครั้งว่าไม่เอาเผด็จการและจะเอารัฐธรรมนูญประชาชนกลับคืืนมา

ด้าน สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ระบุว่า 2 ปีที่ผ่านมา รู้สึกว่ามีความเข้าใจกันมากขึ้น แม้แรกเริ่มจะรวมตัวอย่างเข้มแข็ง แต่ก็ยังมีความไม่เข้าใจกัน พอเวลาผ่านไปก็ทำให้เชื่อใจกันมากขึ้น โดยเฉพาะความร่วมมือที่แน่นแฟ้น และเชื่อมั่นว่าพรรคฝ่ายค้านจะมีอุดมการณ์ที่แน่วแน่ในการสร้างประชาธิปไตย พร้อมวางเป้าหมายว่าต้องการประชาธิปไตยที่เป็นธรรมและยุติธรรมให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า พร้อมกันนี้ยังขอการสนับสนุนจากประชาชนและสื่อมวลชนด้วย

ทั้งนี้ก่อนการประชุม ชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้รายงานการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติว่า ได้เห็นพ้องต้องกันแล้วในประเด็นที่เป็นปัญหา ส่วนจำนวนการเข้าชื่อของประชาชนในการเสนอทำประชามตินั้น กมธ.มีมติกำหนดที่จำนวน 10,000 คน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• จับตากฎหมายประชามติ ผ่านฉลุยวาระ 3 แต่เสี่ยงแท้งชั้น ศาล รธน.