ไม่พบผลการค้นหา
'ทวีศิลป์' ยอมรับสื่อสาร แอปฯ 'หมอชนะ' คลาดเคลื่อน แต่ดีใจหลังคนโหลดแอปฯ เพิ่มขึ้น ย้ำไม่โหลดไม่ผิด เว้นแต่จงใจปกปิดข้อมูล ลั่นขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่คิดลงสนามการเมือง ขอเป็นข้าราชการทำงานเพื่อประชาชน เผยทำงาน ศบค.ด้วยใจ ไม่ได้รับเบี้ยประชุม

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 หรือ ศบค. กล่าวถึง แอปพลิเคชั่น 'หมอชนะ' ว่า เป็นเครื่องมือในการติดตามตัว เพื่อที่จะได้ให้การสอบสวนโรคที่มีความยากให้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันเป็นการทำให้เปรียบเสมือนพาสปอร์ตผ่านไปยังพื้นที่ต่างๆ ทำให้ภาครัฐมั่นใจมากขึ้นว่าได้มีการแสดงตัว ซึ่งเป็นประโยชน์  

โดยในข้อกำหนดในประกาศตามฉบับที่ 16 เพื่อให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางไปยังพื้นที่จังหวัดต่างๆ เว้นแต่กรณีเหตุจำเป็น ต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ รวมทั้งเข้ารับการตรวจคัดกรอง และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ราชการกำหนด ซึ่งสิ่งที่เป็นหลักฐานหรือข้อปฏิบัติตามมาตรการ  

โดยการที่ประชุมมีการหารือร่วมกันจึง ซึ่งมีความจำเป็นในการประกาศฉบับที่ 17 ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนในข้อที่ 2 จะมีการยกระดับในพื้นที่การควบคุม เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคอย่างรวดเร็วโดยจะต้องตรวจราชการการคัดกรองเข้าออกของประเทศนั้นเข้มข้นและให้เป็นที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวติดตั้งแอปพลิเคชันหมอชนะ ส่วนคนที่ประสงค์ก็จะเดินทางต้องแสดงเหตุผล


ยอมรับสื่อสารคลาดเคลื่อน

ซึ่งนพ.ทวีศิลป์ ยอมรับว่า เมื่อวานนี้มีความคลาดเคลื่อนในการสื่อสาร วันนี้จะต้องสร้างความชัดเจน ในเรื่องของการกำหนดโทษ เมื่อมีการติดเชื้อประกอบปกปิดข้อมูล หากเป็นการจงใจปิดบังข้อมูล และไม่มีแอปพลิเคชั่น หมอชนะ อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งถือเป็นความผิดตามพ.ร.บ.โรคติดต่อปี 2558 และย้ำว่า ไม่โหลด ไม่ผิด

ทั้งนี้ นพ.ทวีศิลป์ ขอความเห็นใจและความเข้าใจ ตนอยู่ในส่วนตรงนี้ในการเป็นตัวแทนของ ศบค. จะพยายามสื่อสารเข้มเกินไปก็ไม่ดี อ่อนเกินไปก็ไม่ได้ ใจจริงอยากให้ทุกคนร่วมกันโดยไม่ต้องบังคับ เมื่อวานนี้การสื่อสารออกไปรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เจ็บปวดหัวใจ ที่เห็นในโซเชียลมีเดียออกมาในเชิงทางลบจำนวนมาก แต่เมื่อช่วงเช้าจนกลับดีใจเมื่อเห็นรายงานยอดดาวน์โหลด 2 ล้านครั้งภายใน 1 วัน ทำให้ลืมความเสียใจและความไม่สบายใจ ขอบคุณประชาชนที่เข้าใจและปฏิบัติตาม ท่ามกลางวิกฤต ตนจะขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด


ยันทำงานด้วยใจ ไม่ได้รับเบี้ยประชุม ศบค.

ทั้งนี้ นพ.ทวีศิลป์ ได้พิจารณาตนเองว่าในฐานะที่เป็นโฆษก และสื่อสารกับประชาชน โดยได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข มีพื้นที่ที่ต้องรับผิดชอบอยู่ในอีสานใต้ หน้าที่นี้เป็นหน้าที่โดยตรง แต่ตำแหน่งของโฆษก ศบค.เป็นตำแหน่งเพิ่มขึ้น มีคนไปค้นเรื่องเงินเดือนของตน เมื่อพูดถึงภาระทางภาษี เงินประจำตำแหน่งเท่าใด มีการรับค่าประชุมอะไรยังไงบ้าง ตนอยู่ตรงนี้ไม่ได้มีเบี้ยประชุมจากการทำงานที่ ศบค.ทำงานกันทุกวัน ไม่ต้องการอะไร แต่คนอยากจะรู้ ยืนยันทำงานด้วยใจถึง แม้จะไม่มีเงินในส่วนนี้ แต่มีเงินเดือนของตนอยู่แล้วที่ภาครัฐดูแลในเงินเดือนพอประมาณ ก่อนหน้านี้มีเวลาว่างก็ไปหารายได้จุนเจือครอบครัว แต่ช่วงโควิด ไม่สามารถหารายได้ได้ 

ไม่คิดลงสนามการเมือง

สิ่งสำคัญตนเป็นข้าราชการเมื่อนายสั่ง ผู้บังคับบัญชาสั่ง ตนจะขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แต่ทำหน้าที่มีหลากหลายไม่สามารถโฟกัสอยู่อันเดียวได้ ตนอยู่ในสายการแพทย์ สิ่งที่ต้องเรียนรู้และเรียนรู้ยากที่สุดทางกฎหมาย ความมั่นคง และโรคระบาดวิทยา ซึ่งไม่ได้เป็นวิชาชีพของตัวเอง เนื่องจากตนเป็นจิตแพทย์และจะขอพยายามทำให้ดีที่สุด ยอมรับว่ามีข้อบกพร่องแน่นอน แต่ต้องเรียนรู้และสิ่งที่ต้องกระทบแน่นอน คือโซเชียลมีเดีย ที่โยงตนไปกับการเมือง ใครว่าตนยึดติดในอำนาจ ตนไม่เคยคิดจะไปในเรื่องการเมือง และอยากจะอยู่ในหน้าที่ของราชการและทำให้ดี ปฏิบัติตามภาคนโยบายและจะทำให้เต็มที่เพื่อประชาชน หน้าที่ของข้าราชการตนก็เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำงานเพื่อประชาชน ภูมิใจในความเป็นตนเอง 

เมื่อมีข่าวคราวกระทบทั้งส่วนตัวและครอบครัวจนขอความเห็นใจ กำลังใจของการทำงานทุกคนก็ต้องมี ตนพยายามสร้างให้กับตนเองในฐานะจิตแพทย์ แต่ก็กระทบกับหลายอย่าง ตนคิดว่าอย่างไรวันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้เสมอ พร้อมกับน้อมนำพระราชดำรัส ของสมเด็จพระสังฆราช ทำให้ตนอยากทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่าวันนี้ ทุกคนเกิดมาไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็ต้องช่วยตัวเองช่วยครอบครัวมาโดยตลอด แต่คนที่ได้เกิดมาแล้วช่วยเหลือคนอื่นเป็นคนที่มีบุญมากกว่า ตนอยากให้บุญนี้เกิดขึ้นกับตนเอง ทุกวันนี้พยายามตื่นแต่เช้ามาเพื่อศึกษาข้อมูล สื่อสารถูกบ้าง ผิดบ้าง ต้องขออภัย แต่อย่างไรก็เรียนรู้ได้ทั้งหมดและทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุดเพื่อชนะกับโลกนี้ในวันข้างหน้า ซึ่งไม่รู้เมื่อไหร่ ตนคนเดียวทำไม่ได้ ขอให้ทุกคนช่วยตนหากทำพร้อมกันตั้ง 60 ล้านคนเราคิดว่าชนะได้



ข่าวที่เกี่ยวข้อง :