หัวเว่ยแถลงตัวเลขรายรับประจำไตรมาส 1 / 2562 เพิ่มขึ้นราวร้อยละ 39 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ขึ้นแตะตัวเลข 1.797 แสนล้านหยวน หรือประมาณ 8.53 แสนล้านบาท บริษัทโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ยังชี้ว่าตัวเลขกำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/ 2561 อย่างไรก็ตาม หัวเว่ยไม่ได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขกำไรที่ชัดเจน
เมื่อช่วงสายวันจันทร์ (22 เมษายน) หัวเว่ยออกมาแถลงว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทส่งออกสมาร์ทโฟนไปแล้วกว่า 59 ล้านเครื่อง แม้จะไม่ได้มีตัวเลขยอดส่งออกสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยในไตรมาสแรกของปี 2561 แต่ตัวเลขประมาณการการส่งออกสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยจากบริษัทวิจัยการตลาดอยู่ที่ราว 39.3 ล้านเครื่อง
"ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเราเติบโตขึ้น ไม่ได้ตกต่ำลง" เหรินเจิ้งเฟย ซีอีโอหัวเว่ย กล่าว
นับเป็นครั้งแรกที่หัวเว่ยออกมาแถลงตัวเลขรายได้ประจำไตรมาส ตามปกติแล้วบริษัทจะออกมาแถลงรายรับแค่ช่วงกลางปีและปลายปี ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าการออกมาแถลงตัวเลขรายรับที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางกระแสความกดดันจากสหรัฐฯเป็นแผนเพื่อการแสดงความเข้มแข็งของบริษัทในสมรภูมิการต่อสู้ 5จี
5จี กำลังมา
5จี หรือ 5G คือ สัญญาณโทรศัพท์รุ่นที่ 5 ที่อ้างคุณสมบัติการส่งข้อมูลที่รวดเร็วขึ้นและสามารถนำมาใช้รองรับกับอุปกรณ์เทคโนโลยีอื่นๆ อาทิ ยานพาหนะไร้คนขับ ได้
หัวเว่ย กล่าวในงานแถลงข่าวว่า ปี 2562 "จะเป็นปีแห่งการพัฒนา 5จี อย่างครอบคลุมทั่วโลก" และธุรกิจผู้ให้บริการสัญญาณ 5จี นั้น "มีโอกาสในการเติบโตอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน"
ล่าสุด ณ เดือนมีนาคม หัวเว่ยเซ็นสัญญากับผู้ให้บริการสัญญาณ 5จี จากทั่วโลก ไปแล้วกว่า 40 สัญญา โดยหัวเว่ยส่งเสาสัญญาณ 5จี ไปแล้ว กว่า 70,000 ต้น ทั่วโลก และคาดว่าตัวเลขการส่งออกเสาสัญญาณจะขึ้นไปแตะ 100,000 ต้น ภายในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้
แม้ว่าสหรัฐฯจะมีความพยายามในการบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของหัวเว่ยทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการใส่ร้ายถึงความไม่ปลอดภัยและการสอดแนมจากรัฐบาลให้กับประเทศพันธมิตรอย่าง เยอรมนี และ สหรอาณาจักร แต่ทั้ง 2 ประเทศยังไม่ได้ปฏิเสธหัวเว่ยแต่อย่างใด
เหรินเจิ้งเฟย กล่าวกับสำนักข่าววีเอ็นบีซี ว่า การที่สหรัฐฯออกมาจู่โจมใส่ร้ายหัวเว่ยตลอดเวลาเปรียบเสมือนการทำการตลาดและสร้างความรู้จักให้กับหัวเว่ย
"การที่ประเทศมหาอำนาจกลัวบริษัทเล็กๆอย่างเรา ทำให้หลายประเทศมองว่าสินค้าของเราดีจนสหรัฐฯ ยังต้องกลัว และพวกเขาพร้อมซื้อสินค้าของเรา แบบไม่ต้องทดสอบคุณภาพก่อนซื้อด้วยซ้ำ" เหรินเจิ้งเฟย กล่าว
ความพยายามโจมตีที่กลายเป็นการโฆษณาหัวเว่ยของสหรัฐฯทำให้ประเทศเศรษฐีน้ำมันกระเป๋าหนักหลายแห่งเลือกมาซื้อสินค้าจากหัวเว่ยในปริมาณมาก โดยเหรินเจิ้งเฟยคาดการณ์ตัวเลขการเติบโตของรายรับของบริษัทในอีก 5 ปีข้างหน้าว่า จะเติบโตไปแตะยอด 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 8 ล้านล้านบาท