ไม่พบผลการค้นหา
เลขาฯ สมช. ยืนยันที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจ ไม่มีการหารือขยายเปิดผับบาร์ ถึงตี 2 เตรียมปลดล็อกล้งจีนเข้าไทย หวังกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ

พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เปิดเผยภายหลังการประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกัน และยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) ว่า ในวันที่ 7 ส.ค. ที่ประชุมมีการพิจารณามาตรการผ่อนปรนให้ล้งจีน สามารถเดินทางเข้ามาทำการรับซื้อผลไม้เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งต้องผ่านการตรวจคัดกรองโรคก่อนเข้าประเทศ รวมไปถึงต้องเข้ายังสถานกักกันโรคแบบ Alternative State Quarantin หรือ ASQ จนครบ 14 วัน พร้อมกับตรวจโรคอีกครั้งก่อนออกจาก ASQ  

ทั้งนี้ ไม่ได้มีการจำกัดจำนวนวัน หรือกำหนดให้แจ้งเส้นทางการเดินทางแต่อย่างไร เนื่องจากผ่านการกักกันโรคแล้ว มาตรการเดียวกับคนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมองว่าการอนุญาตดังกล่าว จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการหารือเรื่องการอนุญาตให้การแข่งขันกีฬา สามารถมีผู้เข้าชมได้ แต่ต้องปฏิบัติตามกรอบและมาตรการด้านสาธารณสุข ทั้งการเว้นระยะห่าง และจำกัดจำนวนคนตามชนิดกีฬาแต่ละประเภท ซึ่งรวมกีฬาชกมวยที่เคยเป็นประเด็นการแพร่ระบาดในครั้งที่ผ่านมาด้วย

พล.อ.สมศักดิ์ ระบุว่า หลังจากนี้จะมีการกลับมาทดลองเปิดการเรียนการสอนแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งต้องรอให้นายกรัฐมนตรีนั้นเป็นผู้ลงนามสั่งการก่อน และเมื่อโรงเรียนเปิดปกติแล้วจึงจำเป็นต้องผ่อนคลายมาตรการขนส่งเช่นกันทั้งทางบก และทางเรือให้สามารถขนส่งผู้โดยสารได้ตามปริมาณความจุของยานพาหนะต่างๆ 

ซึ่งการประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมของคณะกรรมการชุดผ่อนคลายกิจกรรมเท่านั้น เรื่องบางเรื่องอาจอนุญาตได้ทันที แต่บางเรื่องต้องรอเข้าที่ประชุมใหญ่ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคเชื้อไวรัสโควิด -19 หรือ ศบค.ก่อนโดยคาดว่าน่าจะมีการประชุมอีกครั้งในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ส.ค.

โดยในช่วงท้าย พล.อ.สมศักดิ์ ระบุว่า ในที่ประชุมไม่ได้มีการหารือถึงการขยายระยะเวลาการเปิดสถานบันเทิงจาก 24.00 น. เป็น 02.00 น. แต่อย่างไร เนื่องจากหากเปิดขยายไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะแอลกอฮอล์สามารถจำหน่ายได้ถึงเวลา 24.00 น.เท่านั้น