ไม่พบผลการค้นหา
นายสนธิรัตน์ เรียกผู้บริหารกระทรวงมอบหมายงานครั้งสุดท้าย หลังลาออกตำแหน่งรัฐมนตรีเช้าวันนี้ ฝากเจ้ากระทรวงดูแลปัญหาด้านสงครามการค้า และผลักดันอีคอมเมิร์ซ ฟุ้งมีเวลาไม่พอแก้ปัญหาสินค้าเกษตรทั้งระบบ ส่วนอนาคตกับพรรคพลังประชารัฐยืนยันตนยังไม่ใช่นักการเมืองและไม่ได้หวังหวังตำแหน่งทางการเมือง

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการหรือร่วมกับผู้บริหารของกระทรวง ภายหลังประกาศลาออกจากตำแหน่งเพื่อเข้าสู่การเมืองเต็มตัว โดยนายสนธิรัตน์ ระบุว่า ตลอด 2 ปีในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ริเริ่มและทำงานหลายด้าน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานราก ทั้งการริเริ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐผ่านกลไกร้านธงฟ้าประชารัฐ ซึ่งหวังว่าเรื่องนี้จะถูกดำเนินการต่อ

ขณะเดียวกันเรื่องราคาสินค้าเกษตร ทั้งข้าว ทุเรียน มันสำปะหลัง ข้าวโพด ก็ยังต้องมุ่งแก้ปัญหาต่อ โดยส่วนตัวรู้สึกเสียดายที่มีเวลาไม่พอ เพราะมีแผนปฏิรูปภาคเกษตรทั้งระบบ เพื่อไม่ให้วิถีการเกษตรกลับไปแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ได้ขอให้ผู้บริหารที่ยังคงทำอยู่ดูแลปัญหาที่เกิดจากสงครามการค้า เพราะเป้าหมายการส่งออกปีนี้ขยายตัวร้อยละ 8 ถือว่าเป็นงานที่หนัก

ส่วนแนวทางทางการเมืองในอนาคต นานสนธิรัตน์ ระบุว่า จะทำให้ดีที่สุด โดยยืนยันว่าขณะนี้ตนเองไม่ใช่นักการเมือง และไม่ได้หวังตำแหน่งทางการเมืองในอนาคต เพียงแต่อยากเป็นทางเลือกใหม่ของประชาชนและประเทศชาติในการดำเนินนโยบายและงานคงค้างได้ต่อเนื่อง โดยมั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐจะเป็นทางเลือกใหม่ที่ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็เชื่อมั่นในทีม

ส่วนการลาออกในวันนี้ นายสนธิรัตน์เชื่อว่าเป็นเพียงการสร้างวาทะกรรมที่ฝ่ายไม่เห็นด้วยนำมาโจมตี โดยที่ผ่านมายืนยันว่าตนเองทำงานหนัก 2 เท่ามาตลอด ซึ่งอดีตไม่เคยมีรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งหลังประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ส่วนตำแหน่งรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังไม่ทราบว่านายกรัฐมนตรีจะแต่งตั้งใครมาทำหน้าที่แทน ซึ่งอำนาจทั้งหมดอยู่ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี

"กอบศักดิ์" เก็บของ-ไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่อำลา ก่อนอุทิศตัวทำงานให้พลังประชารัฐ

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เก็บของในห้องทำงานที่ตึกบัญชาการ 1 โดยนำพระและต้นไม้ที่วางบนโต๊ะทำงานกลับบ้าน หลังยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งกับนายกรัฐมนตรี จากนั้นได้ศักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตายาย สิ่งศักดิสิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ก่อนจะให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากจากนี้ตนก็เป็น ‘พี่กอบ’ อย่างเต็มตัว วันนี้จึงมาลาศาลพระภูมิ ศาลตายาย และพระพรหมเจ้าที่ เพื่อขอบคุณที่ได้ปกปักษ์รักษามาตลอด 1 ปี

พร้อมพูดคุยกับผู้สื่อข่าวว่าหากจำได้ 1 ปีที่แล้ว เราเคยมาเจอกันตรงนี้และถามตนว่า หนักใจหรือไม่ และคิดว่าจะทำงานต่างๆได้หรือไม่ ขอตอบว่า 1 ปีที่ผ่านมาสามารถทำโครงการต่างๆให้ประชาชนได้จำนวนมาก และหลายโครงการสำเร็จไปแล้ว และบางโครงการอยู่ที่การพิจารณาของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งหลายโครงการเปลี่ยนแปลงชีวิตของประชาชน ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น

อย่างไรก็ดีตนภาคภูมิใจที่หลายโครงการมีพี่น้องประชาชนเป็นล้านคนได้รับประโยชน์จากเรา ซึ่งถือเป็นปีหนึ่งที่ตนภาคภูมิใจและดีใจที่ได้ทำให้พี่น้องประชาชนจำนวนมาก ซึ่งในขณะนี้หน่วยงานต่างๆก็จะสานงานต่อไป ดังนั้นจึงไม่กังวลใจคิดว่าหลายโครงการก็ไปด้วยดี รวมถึงอีอีซีก็ไปได้ดีเช่นกัน จึงถือเป็นปีที่ได้เรียนรู้เยอะ และตื่นเต้นทั้งปี ขอขอบคุณนักข่าวที่เมตตาอยู่เสมอมา ช่วยดูแลปกป้องพอๆกับศาลตายาย และถือว่าที่นี่เป็นที่ศักดิสิทธิ์มีศาลพระภูมิและศาลตายายช่วยดูแล และทำให้งานต่างๆราบรื่น

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากนี้เราจะไม่มีวันหยุด ไม่มีแปดโมงครึ่ง ไม่มีสี่โมงครึ่งอีกต่อไป ตั้งแต่เช้าจรดเย็นถึงเที่ยงคืนก็จะไปบุกทุกที่ทั่วไทย เมื่อถามว่า แสดงว่าหลังจากนี้งานของพรรค พปชร. จะเข้มข้นขึ้นใช่หรือไม่ นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากนี้ทั้ง 4 รัฐมนตรีก็พร้อม วันนี้เป็นวันสุดท้าย พรุ่งนี้เราไม่เป็นรัฐมนตรีแล้ว ก็เดินหน้าเต็มที่ หากจะตามหาผมไปเจอได้ที่พรรค ตั้งแต่เช้าและคงอยู่ถึงเย็น 

ขณ��ที่ยุทธศาสตร์พรรค มีกระบวนการต่างๆเรียบร้อยหมดแล้ว รอในวันพรุ่งนี้จะเปิดตัว ส.ส.กทม. 30 คน รวมถึงนโยบาย กทม. 5.0 ที่เราภาคภูมิใจจะนำเสนอ ขณะเดียวกันตัวของ ส.ส. 350 คน ก็พร้อมอีกไม่นานก็จะเปิดตัว หลังจากนั้นจะมีนโยบายตามมา ทั้งสังคมประชารัฐ และเศรษฐกิจประชารัฐ ก็จะมีรายละเอียดของนโยบายตามมาหลังจากนั้นในวันเปิดตัว ส.ส.ทั้ง 350 คน

ส่วนนายกรัฐมนตรี ได้บอกส่วนตัวหรือไม่ว่าจะให้ใครมาปฏิบัติหน้าที่แทน นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้นายกฯจะตัดสินใจเอง ในวันนี้นายกฯยังขอบคุณที่ช่วยมาทำงานและได้ขอให้โชคดี ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี และส่วนตัวไม่ได้วางตัวใครไว้เพื่อสานงานต่อเพราะคิดว่าตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมีอีก 2 ท่านอยู่แล้ว ขณะที่หน่วยงานที่ตนดูแลก็มีเลขาฯและผู้อำนวยการสำนักต่างๆ โดยได้คุยงานเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นตนจึงคิดว่า ไปด้วยความสบายใจที่งานต่างๆสำเร็จไปได้ด้วยดี 

เมื่อลาออกแล้ว รู้สึกโล่งหรือสบายใจได้เต็มที่หรือไม่นั้น นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า เราจะบุกเต็มที่เลย เจอกันตามเวทีต่างๆ และที่พรรค ตนพร้อมเต็มที่เลย และหลังจากนี้จะไปคุยกับพี่น้องประชาชนเพื่อเอานโยบายต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้นโยบายที่ดีที่สุด สำหรับการเป็นรัฐบาลหน้า ทั้งนี้ 4 รัฐมนตรีจะแยกย้ายกันในเวทีต่างๆ แต่บางเวทีอาจปรากฎตัวพร้อมกัน