นักแสดงหนุ่ม พีช พชร จิราธิวัฒน์ ร่วม โครงการ Dare to Dream : ปลุกพลังฝัน เปลี่ยนอนาคต กิจกรรมที่เปิดพื้นที่ให้เยาวชนใช้สิทธิแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนการสอนด้านทักษะที่เป็นประโยชน์ต่อการเตรียมพร้อมสู่อนาคต ของ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย แบ่งปันเส้นทางการใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จในวงการธุรกิจ
พีช เล่าประการณ์การเป็นผู้ประกอบการในการทำธุรกิจ จากหลักการของเขา จะต้องต้องโหดกับตัวเองเข้าไว้ ตั้งมาตรฐานให้สูง และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ อย่าอยู่กับที่เพราะอะไรที่มันสำเร็จในวันนี้ มันอาจไม่สำเร็จในวันพรุ่งนี้ ซึ่งอย่าปล่อยให้อีโก้มากั้นขวางไม่ให้เราพัฒนาตัวเองได้ ช่วงหนึ่งในการพูดคุย พีช แสดงความคิดเห็นว่า คนรุ่นใหม่ มักไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร อยากทำอะไร การค้นหาตัวเองจึงจำเป็นต้องทดลองทำในหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง เพื่อพบตัวตน พีช ได้พูดคุยกับ ทีมข่าววอยซ์ออนไลน์ ในประเด็นนี้ว่า
"ผมมองจากคนที่เราเจอนะ อย่างในช่วงหลัง ผมก็ต้องทำ Career path (การจัดการเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ) บ้างให้คนอื่น ซึ่งของมหาวิทยาลัยตัวเองก็มีการช่วยบ้าง ในการดูแผนน้องๆ จบไปจะเป็นอะไรดี ทำอะไรดี ซึ่งสิ่งที่เจอ คนจำนวนมาก ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีใครรู้ว่าอยากเป็นอะไร ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรกันแน่ เรียนหนังสือเพราะพ่อแม่บอกให้เรียน เรียนเก่ง ก็ไปเป็นหมอ มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมไทย เฮ้ย เรียนเก่งเรียน วิศวะสิ นึกออกป่าว มันเลยกลายเป็นทำให้เราไม่รู้ ว่าเราอยากเป็นอะไรกันแน่ เราก็เลยเสียเวลาไปกับการเรียนอะไรไม่รู้ โดยที่ไม่ได้อยากเป็น มันก็เลยทำให้คนจำนวนมากไม่มีความสุข เพราะต้องไปทำงานที่ตัวเองไม่ชอบ"
"ผมก็ไม่ได้รู้เส้นทางตัวเองตั้งแต่แรก เราแค่ลองทำ เดี๋ยวมันจะเจอ ช่วงที่อายุน้อยทำไปเถอะ ทำงานให้ได้เยอะๆ ทำเรื่อย ๆ จนกว่าจะเจอว่าเราอยากเป็นอะไร หรือว่าระหว่างเรียน ไปทำงานพาร์ทไทม์ ทำงานอินเทิร์นก็ได้ ทำจนรู้ มันต้องลองของแบบนี้ จนปัจจุบันสำหรับผม ทุกอย่างที่ทำ เราเลือกมาจากเราชอบ ที่จะทำ และน่าสนใจที่จะทำ มันตื่นเต้นที่จะทำ ไม่น่าเบื่อที่จะทำ นั่นคือความชอบของเรา เราชอบอะไรที่มันไม่น่าเบื่อ"
"เส้นทางในชีวิต ไม่มีใครมีอะไรที่ง่าย ทุกคนมีความลำบากในแบบของตัวเอง - พีช พชร"
กับการมาเป็นส่วนหนึ่ง โครงการ Dare to Dream : ปลุกพลังฝัน เปลี่ยนอนาคต ของ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย พีช มองว่า โครงการนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่คนรุ่นใหม่จะกล้าออกมาแสดงความคิดเห็นของตัวเอง และออกมาใช้สิทธิของตัวเอง
"มันเห็นเรื่องราวที่ดี อย่างน้อยมีการได้พูดบ้าง ผมไม่รู้ว่าเมื่อนำไปใช้ มันจะสำเร็จไหม แต่ว่าอย่างน้อยมันมีการเริ่มต้น ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย อย่างวันนี้ เริ่มให้น้องๆ ออกมาใช้ความคิดเห็นของตัวเอง ว่าอยากทำอะไร ชอบอะไร อยากเรียน ไม่อยากเรียนอะไร มันควรจะต้องได้รับสิทธิในการพูด ในฐานะที่เราเป็นคนที่โตกว่า เราไม่ควรไปบังคับเด็ก ผมว่ามันเป็นเรื่องจำเป็น ที่เขามีสิทธิที่จะพูดบ้าง มันคือชีวิตของเขา เขาควรจะได้สิทธิในชีวิต ในการเลือกเอง ว่าอยากจะทำอะไร หลายๆอย่างในเมืองไทย ความตั้งใจมันดี แต่การนำไปใช้มันไม่เกิดขึ้น ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง ความคิดเห็น ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะพูด เราอยู่ในระบอบที่เราคิดว่าเราเป็นประชาธิปไตย เพราะฉะนั้น ประพฤติตัวให้เหมือนว่าเรามีประชาธิปไตย ประพฤติตัวให้เหมือนเรามีระบอบประชาธิปไตย เราออกมาพูด ออกมาใช้สิทธิของตัวเอง"
สำหรับ โครงการ Dare to Dream : ปลุกพลังฝัน เปลี่ยนอนาคต ยูนิเซฟ ยังได้ทำโพลสำรวจ ผ่าน www.unicef.or.th/d2d เพื่อรวบรวมความคิดเห็นต่าง ๆ ของเยาวชน ไปเป็นข้อมูลยกระดับการพัฒนากรอบทักษะแห่งชาติ ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่างองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ และพันธมิตร