วันที่ 1 ก.ย. ที่สถานีผลิตน้ำประปาฉะเชิงเทรา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งถือเป็นจุดแรกของการลงพื้นที่ในวันนี้ โดยมี คณะ ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ภาคตะวันออก และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ มารอต้อนรับ
พล.อ.ประวิตร เริ่มกล่าวด้วยการปล่อยมุก ว่า "ขอเปิดแมสก์นะ จะได้เห็นหน้าหน่อย คนพูดจะได้พูดได้ ไม่เช่นนั้นจะหายใจไม่ออก" จากนั้นระบุต่อว่า วันนี้ตนได้มาเยี่ยม ยินดีเป็นอย่างยิ่งและขอบคุณในกานนำเสนอเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ตามที่ทุกคนได้ยินแล้วว่ามีการเตรียมการในระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว เพื่อที่จะเตรียมการน้ำดิบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดันของน้ำเค็ม ที่จะต้องทำประตูน้ำป้องกันน้ำเค็ม จากลำน้ำบางปะกง เพื่อป้องไม่ให้น้ำเค็มรุกล้ำและสามารถนำน้ำดิบในระบบนิเวศเข้ามาใช้ได้ตลอด รัฐบาลได้ให้งบประมาณต่างๆเกี่ยวกับเรื่องน้ำ ในทุกปี จะสังเกตได้จาก สทนช. ได้รายงานให้ทราบแล้ว และกรมชลประทาน ได้มีการเตรียมการต่างๆ ในการที่จะให้ประชาชนไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนจากการใช้น้ำ
พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า จะต้องมีการเตรียมการในเรื่องการสำรองน้ำดิบ ไว้สำหรับเพื่อที่จะผลิตให้ได้ตามความต้องการของประชาชน หากประชาชนไม่มีน้ำก็ด่ารัฐบาลใช่หรือไม่ ประชาชนมีอย่างเดียวคือต้องด่ารัฐบาล ต้องฝากความเห็นใจข้าราชการทุกคนที่พยายามทำงานให้พวกเราได้อยู่ดีกินดีขึ้นเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี และป้องกันน้ำเค็มไม่ให้ลุกล้ำเข้ามา เนื่องจากจะมีผลกระทบ และนำมาทำน้ำประปาอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งหาแนวทาง เพื่อที่จะให้เป็นระบบในระยะยาว เพื่อไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นซ้ำซากในทุกปี
"ประชาชนเกรงว่าฝนตกปีนี้จะทำให้น้ำท่วมเหมือนปี 54 ผมขอรับรองว่า ไม่เกิดขึ้นอย่างปี 54 แน่นอน น้ำจะไม่ท่วมอย่างปี 54 แน่นอน เพราะฉะนั้น ผมอยากจะบอกว่าทั้งกรมชลประทาน และสทนช. ร่วมกันในการที่จะกระจายน้ำ เมื่อฝนตกมาจากทางเหนือก็กระจายน้ำไม่ให้เกิดน้ำท่วมพยายามทำอยู่ตลอดเวลา มีกรรมการลุ่มน้ำ 22 ลุ่มน้ำ ในการกำกับดูแลลุ่มน้ำมีคณะกรรมการน้ำจังหวัดทุกจังหวัด ในการที่จะดูว่าน้ำจะมีมากขึ้นหรือน้อยลงหรือแล้ง เราทำมา 3 ปีแล้วไม่มีแรงเลย 3 ปี จะสังเกตได้ว่าหน่วยงานไม่มีประกาศภัยแล้ง เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ เพราะฉะนั้นรัฐบาลมีความห่วงใยอย่างมากต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประชาชน จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเร็ว"
พล.อ.ประวิตร กล่าวในช่วงท้ายด้วยว่า ขอให้ข้าราชการที่ใช้เงินภาษีของประชาชน ต้องทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ มุ่งมั่นทำหน้าที่ให้เต็มที่เต็มความรู้ความสามารถ ในการทำหน้าที่สนองความต้องการของประชาชน พร้อมขอให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการต่างๆ
อย่างไรก็ตามภายหลังติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำบางปะกงแล้ว พล.อ.ประวิตร จะไปพบปะชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) แห่งประเทศไทย ประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา อีกทั้งในช่วงบ่ายจะเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ เพื่อเป็นประธานในการเปิดการสัมนาและปาฐกถาในหัวข้อ แนวทางส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งจัดโดยคณะกรรมาธิการ การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชนวุฒิสภา และก่อนเดินทางกลับจะเข้าสักการะพระพุทธโสธรและถวายสังฆทานแด่เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ฉะเชิงเทรา วันนี้ของ พล.อ.ประวิตร ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่รับตำแหน่งรักษาการนายกฯ ระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ระหว่างรอฟังคำตัดสินปมวาระฯ 8 ปี
ขณะที่การลงพื้นที่ในจุดแรกวันนี้ ก่อนที่ พล.อ.ประวิตร จะเดินทางมาถึง การรักษาความปลอดภัยเป็นไปด้วยความเข้มงวดมากกว่าก่อนที่จะเป็นรักษาการนายกฯ และเมื่อรักษาการนายกฯ เดินทางมาถึงก็มีท่าทีที่กระฉับกระเฉง เดินเองทีม รปภ.ไม่ต้องเดินประกบใกล้ชิดเหมือนเมื่อก่อน
ขณะที่การลงพื้นที่บริเวณร้านอาหารบลูม ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นจุดที่ 3 ในการลงพื้นที่วันนี้ มีประชาชนชาว จ.ฉะเชิงเทราในแต่ละพื้นที่ รวมถึงกลุ่มแรงงานจังหวัดฉะเชิงเทรา มากกว่าพันคน มารอคอยต้อนรับ