ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และมหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมกับทนายความ ได้เดินทางไปที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก เพื่อยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว 3 แกนนำราษฎร ได้แก่ “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล นักศึกษาคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ “ไผ่” จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ซึ่งกำลังศึกษาระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหิดล

ซึ่งทั้งสามคนถูกกล่าวหาในคดีการชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร โดยมีข้อหาตามมาตรา 112 เป็นข้อหาหลัก การยื่นประกันตัวในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 5 ของเพนกวิน หลังเขาถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. รวมระยะเวลา 32 วัน ส่วนของรุ้งและไผ่ เป็นการยื่นครั้งที่ 2 หลังจากไม่ได้รับการประกันตัวในวันสั่งฟ้องคดีเมื่อวันที่ 8 มี.ค.

การร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวครั้งนี้ ได้ใช้ตำแหน่งอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเป็นหลักประกันทั้งสามคน โดยมี ผศ.ดร.จันทนี เจริญศรี คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, รศ.ดร.อนุสรณ์ อุณโณ และอาจารย์สิทธิโชค ชาวไร่เงิน ยื่นขอประกันตัวรุ้ง ปนัสยา ส่วน ผศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ รองคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยื่นขอประกันตัวเพนกวิน ในสองคดี ทั้งในคดีชุมนุม 19 ก.ย. 63 และคดีชุมนุม Mobfest ส่วน อ.ดร.พัทธีรา นาคอุไรรัตน์ อาจารย์จากสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ยื่นขอประกันตัวไผ่

คำร้องยืนยันว่าตำแหน่งอาจารย์มหาวิทยาลัยเป็นหลักประกันที่น่าเชื่อถือได้ ว่าหากจำเลยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว จะไม่หลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือไปก่อเหตุภยันตรายประการอื่น และไม่เป็นอุปสรรคต่อการพิจารณาคดี

ทั้งสามคนยังมีเหตุผลความจำเป็นด้านการศึกษา โดยมีการเรียนและสอบกลางภาคที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในช่วงนี้ การศึกษาค้นคว้า การส่งงานตามที่ได้รับมอบหมายจากผู้สอน ซึ่งไม่สามารถกระทำได้ภายในเรือนจำ จะส่งผลกระทบกับการเรียนของจำเลยอย่างร้ายแรง ถึงขั้นไม่ผ่านวิชาที่ลงทะเบียนเรียน และส่งผลกระทบต่อการเรียนจบตามหลักสูตร นำไปสู่การถูกตัดสิทธิทางการศึกษา

ทั้งสามคนยังมิได้ถูกศาลพิพากษาว่ากระทำความผิดแต่อย่างใด จึงสมควรได้รับโอกาสให้ได้ปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อกลับไปศึกษาเล่าเรียน ตลอดจนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกติกาสิทธิมนุษยชนสากล ล้วนรับรองหลักการได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นหลักสำคัญในคดีอาญา

ยื่นประกันตัว “โตโต้” ยันพยานหลักฐานที่ตำรวจกล่าวหาเลื่อนลอย ไม่ตรงความจริง

ขณะเดียวกันในส่วนของ “โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ ซึ่งถูกฝากขังระหว่างการสอบสวนในคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวหาทีมการ์ด We Volunteer ว่าเตรียมก่อเหตุวุ่นวายในการชุมนุม #ม็อบ6มีนา โดยเขาถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษธนบุรีมาตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 64 ทนายความก็ได้ยื่นหลักทรัพย์จำนวน 1 แสนบาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ ขอปล่อยตัวชั่วคราวอีกครั้ง

คำร้องขอปล่อยตัวยืนยันว่าปิยรัฐไม่ได้กระทำความผิดและไม่ได้มีพฤติการณ์ร้ายแรงตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวหา พยานหลักฐานของตำรวจก็ระบุเหตุการณ์เลื่อนลอย เคลือบคลุม ไม่มีความน่าเชื่อถือ พฤติการณ์ในบันทึกการจับกุมไม่ตรงกับความเป็นจริง

ทั้งโตโต้ยังไม่ได้เข้าร่วมการชุมนุมใดๆ ในวันนั้น เพียงเดินทางไปรับประทานอาหาร ตามใบเสร็จค่าอาหารและภาพจากกล้องวงจรปิด แสดงให้เห็นว่าช่วงที่มีการจับกุมบุคคลต่างๆ ปิยรัฐยังอยู่ในร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งไม่พบสิ่งของที่อ้างว่าเตรียมใช้ในการกระทำผิดใดๆ จากปิยรัฐ และเขาก็แสดงความบริสุทธิ์ใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นอย่างเต็มที่ ปิยรัฐจึงไม่ได้มีพฤติการณ์คุกคาม หรือไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ตามที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด โดยมีการยื่นพยานหลักฐานประกอบ

ศาลไม่ให้ประกันทั้งสี่คน ระบุเพียงไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม

จนเวลา 15.55 น. ศาลอาญา ได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว “เพนกวิน” พริษฐ์ ในทั้งสองคดีที่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวไป โดยระบุว่าคดียังไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม

ต่อมาเวลา 16.40 น. ศาลอาญาได้มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวทั้งรุ้ง ไผ่ และโตโต้ โดยระบุเช่นเดียวกันทั้งหมดว่า “ยังไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม” และไม่ได้มีการกล่าวถึงเหตุจำเป็นในคำร้องที่ทั้งสี่คนยื่นขอไป

คำสั่งทั้งหมดมีผู้พิพากษา นายสันติ บุตรดี เป็นผู้ลงลายมือชื่อ