วันที่ 5 ต.ค. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยความรู้สึกการใช้รถน้ำมันและการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ภายหลังได้ทดลองนั่งรถไฟฟ้า BYD ว่า เรื่องสมรรถภาพเป็นเรื่องนึง แต่ตนคิดว่าเป็นเรื่องของหลักการทำงานมากกว่า ทุกวันนี้อย่าไปคิดว่ารถอะไรสวยหรือไม่สวย ขอให้คิดถึงประโยชน์ การใช้งานขอเพียงแค่นำไปสู่จุดหมายปลายทางได้ โดยที่ทำให้โลกสะอาด ขึ้นเป็นเรื่องที่น่าสนับสนุน

พร้อมย้ำว่า ตนไม่ได้มาโฆษณารถ แต่มาโฆษณาแนวคิด อีวีเป็นอนาคตที่ดีเป็นเรื่องที่รัฐบาลสนับสนุน พร้อมย้ำว่าขณะนี้มีการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้ามาในประเทศไทยจำนวนมากจากหลายผู้ผลิต

ส่วนการเพิ่มจุดชาร์ทรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากต่างจังหวัดยังมีที่ชาร์จน้อย นายกฯ ระบุว่า ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลประชาสัมพันธ์น้อยเกินไป เพราะปัจจุบันมีสถานีชาร์จจำนวนมากแล้ว ทั้งแบบฟาดชาร์จ สโลชาร์จ มีเดียมชาร์จ รวมถึงที่บ้านและคอนโดมิเนียม ก็มีสถานีชาร์จอยู่แล้ว และขณะนี้ในหลายสถานีบริการน้ำมันมีการพัฒนาและเพิ่มจุดชาร์จ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะได้ลดฝุ่น PM2.5 และทำให้โลกเราน่าอยู่ขึ้น จุดนี้เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม ซึ่งคนที่สนใจรถไฟฟ้าลองไปศึกษาดู

ส่วนจะมีการนำรถยนต์ไฟฟ้าไปใช้ในหน่วยราชการหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ถือเป็นแนวคิดที่ดี แต่ต้องพิจารณาถึงเรื่องงบประมาณ และต้องดูเรื่องอายุการใช้งานด้วย พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนวันนี้ถือเป็นข้อเสนอที่ดี และกำชับฝ่ายเลขาธิการนายกมนตรีว่าตนจะนำข้อเสนอแนะนี้เข้าไปสั่งการในคณะรัฐมนตรีด้วย ให้นำรถไฟฟ้ามาใช้แต่ต้องดูเรื่องค่าใช้จ่ายด้วย

ส่วนรัฐบาลจะมีนโยบายรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกหรือไม่ เรื่องนี้ตนยังไม่คิดเพราะไม่ใช่ประชานิยม แต่คิดว่า EV เป็นยานพาหนะที่ทำให้โลกสะอาดขึ้น

อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาทนัดแรก แต่จะให้ จุลพรรณ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้ชี้แจงคนเดียว ป้องกันความสับสน