หลังกรณี 'พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ' หลั่งน้ำตาระหว่างไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ปมกระแสข่าว 'พระราชปัญญาสุธี' (อุทัย ญาโณทโย) ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ไม่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นเจ้าอาวาส และประกาศเตรียมสึก เนื่องจากมองว่าเหตุของการเปลี่ยนตัวครั้งนี้เกิดจากพระมหาไพรวัลย์เอง ทำให้ผู้คนในสังคมต่างวิพากษ์วิจารณ์ และร่วมให้กำลังใจจำนวนมาก

โดยล่าสุด 'พระมหาไพรวัลย์' โพสต์ข้อความอีกครั้งว่า “อาตมาอาจทำอะไรหลายอย่างไม่เหมาะสม แต่อาตมาไม่เคยนั่งเครื่องบินไปดูบอลต่างประเทศ ไม่เคยทำเดรัจฉานวิชาอย่างเดียรถีย์ ไม่เคยดูโหรทำนายดวงหรือแม้แต่ปลุกเสกต์ผ้ายันต์แม้แต่ครั้งเดียวตั้งแต่บวชมา” กลายเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง เมื่อมีการเชื่อมโยงไปถึงพระผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง 

เพื่อนสหธรรมิกร่วมวัดสร้อยทอง 

ด้านความเคลื่อนไหวในโลกโซเชียล 'พระมหาวัลลภ วลฺลภปญฺโญ' ในฐานะเพื่อนสหธรรมิกร่วมวัดสร้อยทอง ได้โพสต์ข้อความไว้บนเพจเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า หลังจากที่หลวงพ่อพระธรรมปริยัติโสภณ อดีตเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง มรณภาพ อาจารย์เจ้าคุณอุทัย (หรือในนามสมณศักดิ์คือพระราชปัญญาสุธี) ได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการเจ้าอาวาส ต่อเมื่อมีการพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางมหาเถรสมาคมได้รับรองมติในที่ประชุมเสนอแต่งตั้งท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดสร้อยทองรูปใหม่

จนกระทั่งมีกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวเจ้าอาวาสรูปใหม่ เนื่องจากพระผู้ใหญ่ไม่ปลื้มที่ไม่สามารถควบคุมท่านพระมหาทั้งสองรูป ที่มีสถานะเป็นพระลูกวัดธรรมดา แต่เป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศด้วยการบรรยายธรรมแนวใหม่เอาใจวัยรุ่น แต่ขัดใจคนอนุรักษ์นิยมที่ยังถือจารีตประเพณีที่พระสงฆ์อยู่ในสถานะเป็นที่เคารพกราบไหว้ ทำอะไรต้องสำรวม

โดยสถานะของท่านพระมหาทั้งสองนั้น ถือว่าโดดเด่นพิเศษในยุคสมัยนี้ ซึ่งเป็นยุคสมัยที่อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เด็กสมัยนี้โตเร็วกว่าอดีตมากมาย และก้าวไปตามกระแสโลกยุคดิจิตอลที่ทุกอย่างสามารถจัดสรรได้ด้วยสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว

ในขณะที่หลายคนยังกำแบงค์ร้อยแบงค์พันไปซื้อข้าวซื้อของ แต่เด็กยุคใหม่เริ่มก้าวไกลไปกับสกุลเงินดิจิตอลบิทคอยน์ อีธิเรียม ไล่จับน้องหมาหาค่าขนม หรือบางคนอาจโชคร้ายไล่จับไม่ทันเหมือนคนอื่นก็ต้องแขม่วท้องอยู่บนยอดดอยที่ไม่ใช่สถานที่ แต่คือผู้คนที่รอคอยโอกาสและเวลาด้วยความเชื่อว่า "ศรัทธาย่อมชนะทุกสิ่ง"

ขมวดปมพลาดตำแหน่ง

การที่ท่านจับกระแสคนรุ่นใหม่ และบรรยายแบบนี้มันย่อมขัดวิถีเดิมๆ ที่พระสงฆ์เราได้ปฏิบัติสืบทอดกันมาจนเป็นจารีตพระเพณี จนบางครั้งการเทศน์ของคนรุ่นเก่าอาจไม่ใช่ฟังเพื่อเอาปัญญา แต่เป็นการฟังเอาบุญ คือจับใจความธรรมะไม่ได้ แต่ได้ประณมมือ-นั่งหลับสมาธิจนจบรายการ อันนี้ก็ถือว่าได้บุญแล้ว เสียงติติงจากผู้ใหญ่ในกรณีสองพระมหานี้ กลายเป็นประเด็นที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุหลักที่อาจทำให้ท่านพลาดตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง

อันที่จริง อาจารย์เจ้าคุณอุทัยท่านได้รับนิมนต์ให้มาอยู่วัดสร้อยทองในฐานะเป็นอาจารย์สอนบาลี โดยเฉพาะวิชาแต่งฉันท์ที่ถูกมองว่าเป็นวิชาที่ยาก แต่ท่านสามารถสอนให้นักเรียนได้เข้าใจได้ง่าย ก่อนหน้านี้ท่านเคยดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่สำนักเรียนมาก่อน ท่านได้พัฒนาสำนักเรียนวัดสร้อยทองให้มีชื่อเสียงจนเป็นที่กล่าวถึงในฐานะสำนักเรียนอันดับต้นๆ ที่มีจำนวนพระภิกษุสามเณรสอบได้เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้เป็นเพราะการวางแผนในการบริหารการเรียนการสอนที่จะมีการประชุมทุกเดือน เพื่อประเมินผลทั้งในแง่การศึกษาและบริหารงานด้านต่างๆ จนบางครั้งมีเรื่องที่เห็นต่างกัน ก็อาศัยมติในที่ประชุมเป็นตัวตัดสิน

จึงไม่แปลกใจเลยว่า เมื่อเกิดมีกรณีของสองพระมหา ท่านอาจารย์เจ้าคุณจะเน้นในเรื่องการพูดคุยกับความเข้าใจด้วยเหตุผลว่าอะไรเหมาะสมไม่เหมาะสม ไม่ได้มองพระลูกวัดในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาแต่อย่างใด การมีส่วนทำให้วัดสร้อยทองเจริญรุ่งเรืองและมีชื่อเสียง อีกทั้งได้รับการยอมรับจากพระเถรานุเถระพระหนุ่มสามเณรน้อยและศิษย์เก่าวัดสร้อยทอง ว่าท่านมีความเหมาะสมทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิที่จะดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดสร้อยทองรูปต่อไป

จึงนับว่าน่าเสียดาย หากท่านไม่ได้รับการพิจารณาเพียงเพราะใช้พระคุณมากกว่าพระเดช ใช้การพูดคุยกันและให้นำไปพิจารณาตัดสินด้วยตนเองมากกว่าการออกคำสั่ง