ไม่พบผลการค้นหา
'ภูมิธรรม' ไม่สนทัวร์ส้มถล่มเพื่อไทย หลังค้านเสนอแก้ ม.272 ติง 'ก้าวไกล' ทำนอกเหนือ MOU 8 พรรค ขอพูดความจริง ไม่ใช่ชิงเสนอสิ่งที่ตนเองคิด ยันยังหนุน 'พิธา' บนเงื่อนไขต้องได้เสียง ส.ว.ใกล้เคียงความเป็นจริง ไม่ใช่ละครดราม่า แต่เดิมพันด้วยปัญหาของประชาชน ตอบข่าวจอปูดกลาง 'งูเห่าส้มแดง'

วันที่ 17 ก.ค. ภูมิธรรม เวชชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ระบุถึงกรณีการโหวตนายกรัฐมนตรี ที่จะเกิดในวันที่ 19 ก.ค. นี้ว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยจะมีการนัดหารือเพื่อคุยกันก่อนในประเด็นการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งถัดไป เมื่อได้ข้อสรุปในเวลา 17.00 น. จะมีการประชุมร่วม 8 พรรค ซึ่งจนถึงขณะนี้พรรคก้าวไกล ยังไม่ได้แจ้งสถานที่นัดหมาย โดย ภูมิธรรม ยืนยันว่า การที่พรรคเพื่อไทยออกมาให้ความเห็นฝ่ายเดียวตลอดหลังจากที่นายพิธา ออกคลิปเปิดใจ และมีการแสกลับมาที่พรรคเพื่อไทยก็ไม่กังวล และไม่คิดว่าเป็นกระแสตีกลับ ซึ่งตนก็ไม่อยากออกมาพูด เพราะการเจรจาของทั้ง 2 พรรคยังไม่ได้ข้อยุติ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาก็ได้คุยกัน และมีความเห็นตรงกันบางเรื่อง แต่แตกต่างกันในรายละเอียดและวิธีการ ซึ่งในที่ประชุมวันนั้น ได้คุยกัน 2 เรื่อง ซึ่งหนึ่งเรื่องพรรคก้าวไกลเสนอมา ก็คือการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ 272 เพื่อปิดสวิซต์ ส.ว. และอีกเรื่องคือจะฝ่าด่าน ส.ว.ไปตั้งรัฐบาลได้อย่างไร แต่วาระดังกล่าว ก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญ ส่วนการคุยร่วมกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก็ยังมีความเห็นที่ต่างกันอยู่ แต่พรรคเพื่อไทยได้ยืนยันไปว่า ถ้าจะโหวต พิธา รอบ 2 พรรคเพื่อไทยไม่มีปัญหา พร้อมยกมือโหวตให้ แต่เราอยากให้ทั้ง 2 พรรคกลับไปคุยกัน เมื่อได้ข้อสรุปก็จะมาประชุมร่วมกันทั้ง 8 พรรค ซึ่งทั้งหมดเป็นข้อตกลงในวงประชุมเมื่อวันศุกร์ 

แต่เรากลับ พิธาออกมาสื่อสารวาระของพรรคก้าวไกล และวาระของนายพิธา รวมถึงเปิดประเด็นใหม่ โดยใช้ ม.272 ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยไม่เข้าใจว่า การเปิดสมรภูมิใหม่ของพรรคก้าวไกล เป็นการเสนอประเด็นใหม่ที่นอกเหนือจากใน MOU โดยในนั้นไม่ได้มีเรื่องนี้ ซึ่งการตั้งและเสนอเรื่องนี้ขึ้นมา และบอกว่าเราจะสู้ทั้ง 2 สมรภูมิ จนไม่สามารถไปต่อได้ แล้วถึงจะมอบอำนาจให้พรรคอันดับ 2 ซึ่งนายพิธาพูดแบบนี้ ฟังแล้วอาจจะดูดี แต่ 2 ประเด็นนี้ สร้างความยากลำบากมากยิ่งขึ้น เพราะเป้าหมายของ 8 พรรครือการเร่งตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ 

การที่ พิธาออกมาสื่อสารแบบนี้ เหมือนการมัดมือชกพรรคเพื่อไทย ตนเองจึงจำเป็นต้องออกมาชี้แจงถึงความเป็นให้คนภายนอกได้ทราบ แต่ขอย้ำว่า การพูดทั้งหมดในวันนี้ ไม่ใช่ความขัดแย้ง หรือโกรธ และจะไม่คุยกัน อย่างไรวันนี้ การพบกันใน 8 พรรค หรือได้พบกัน 2 พรรคก่อน พรรคเพื่อไทยก็จะเสนอความคิดทั้งหมดออกไปให้ตกผลึก วันนี้สิ่งที่จะเสนอเพื่อให้ความชัดเจน และเป็นวาระประเทศ กับวาระประชาชน เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่สาระของพรรคก้าวไกล และวาระของ พิธา วันนี้จะทำอย่างไรให้ประเทศเดินหน้าต่อไปไ้ด้ สิ่งสำคัญที่สุดที่เห็นได้ชัดคือภาคธุรกิจอยากเห็นรัฐบาลรวมถึงอีกหลายปัญหาที่รอไม่ได้ ต้องให้รัฐบาลใหม่เข้ามาทำงานทันที ถ้าทำวันนี้ไม่สำเร็จ จะต้องอยู่กับลุงตู่ กับรัฐบาลรักษาการณ์ไปอีกนาน 

ส่วนที่มีคนจากฝั่งพรรคก้าวไกล อย่าง เดชรัตน์ สุขกำเนิด ผู้อำนวยการด้านนโยบายพรรคก้าวไกล ออกมากล่าวในทำนองที่ว่า จะมีการลากไส้ ส.ว.ออกมา รวมถึงอดีตของ ส.ว. ภูมิธรรม มองว่า ไม่เข้าใจประเด็นที่เดชรัตน์พูด แต่อยากจะบอกกลับไปว่า ไม่ต้องบอกว่า ส.ว.เห็นต่างอย่างไร และเป็นอุปสรรคการตั้งรัฐบาลอย่างไร เพราะเขาแสดงชัดเจนอยู่แล้ว แต่อยากให้ย้อนกลับมาดู เปิดใจให้กว้าง แล้วเอาวาระประชาชน เป็นที่ตั้ง และอยากเสริมเพิ่มไปว่า ที่นายพิธาพูดปิดท้ายในคลิปเปิดใจ “เวลานี้อนาคตของพรรคก้าวไกล และอนาคตของประชาชน อยู่ในมือประชาชนแล้ว” อย่าเอาอนาคตของประชาชน ไปผูกกับใคร วันนี้ประเทศชาติ และปัญหาของประชาชน อยู่ในมือของพรรคก้าวไกล และนายพิธา ดังนั้นจึงถึงเวลาที่นายพิธาต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้งและตัดสินใจ หากครั้งนี้ตัดสินใจผิดพลาด คุณก็จะต้องอยู่กับลุงตู่ไปอีกยาวนาน รักษาการณ์ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าวันนี้ตัดสินใจถูกต้อง ชัดเจน ปัญหาของประเทศจะคลี่คลาย จึงอยากฝากให้พรรคก้าวไกลให้ไปคิด

ภูมิธรรม กล่าวต่ออีกว่า วันนี้อย่ากังวล การคุยกับพรรคก้าวไกลในวันนี้ เราคุยกันอย่างตรงไปตรงมา และฝากไปยังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและได้เสียทั้งหมด สิ่งที่พรรคเพื่อไทยเสนอ เราเสนอให้เอาวาระประเทศเป็นที่ตั้ง เอาความยากลำบากของประชาชนมาเป็นตัวกำหนดเพื่อหาทางออกอย่างรวดเร็ว แต่ห่วงว่า ถ้ายังตกลงกันไม่ได้ จะมีโรคแทรกซ้อน หากเขายินดีมีการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ก็จะสู้เขาไม่ได้ 188+250 ส.ว. ตั้งรัฐบาลได้สบาย และเราต้องอยู่กับลุงไปอีกถึง 4 ปี จะลุงไหนก็แล้วแต่ และประชาชนอยากจะไปกับเขาหรือไม่ ถ้าไม่ ก็ต้องมาหาทางออกช่วยกันแก้ปัญหา 

ภูมิธรรมยังย้ำว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีแผนสำรอง แผนแรกแบะแผนเดียว เราอยากจับมือกับ 8 พรรคคลร่วมรัฐบาล เดินหน้ากันไปให้สุด แต่ต้องมีคำตอบที่ชัดเจน ไม่ใช่ปล่อยให้มีการเลือกไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าประเทศจะมีทางออกอย่างไร จะรอถึงปีหน้าไม่ได้ เพราะปัญหาประเทศตอนนี้รุนแรงมาก และไม่ต้องห่วง แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย เรามีแคนดิเดต 3 คน ถ้าวันไหนชัดเจน เราสามารถเสนอได้ทันที แต่ไม่ใช่ประเด็นหลักที่จะทำเรื่องนี้ก่อน เพราะปัญหาหลักคือ 8 พรรค มาหาทางออกประเทศร่วมกันก่อน ส่งคุณพิธา เป็นนายกฯให้สำเร็จ แต่ก็ขึ้นอยู่กับพรรคก้าวไกล ว่าจะทำให้สำเร็จอย่างไร หากไม่ได้ 8 พรรคกลับมาหาทางออกร่วมกัน เพื่อให้เกิดชัยชนะ และยังย้ำอีกว่า หากการประชุมในวันที่ 19 ก.ค.ที่จะถึงนี้ ญัตติเสนอนายพิธาถูกตีตก โหวต พิธาต่อไม่ได้ ก็ต้องพักการประชุม และจะกลับมาหารือกับ 8 พรรคก่อน ว่าจะไปต่อยังไง ส่วนพรรคเพื่อไทย เราสามารถตัดสินใจได้ทันที ไม่มีปัญหาตามกฎหมายที่รองรับ ไม่จำเป็นต้องเตรียมแคนดิเดตสำรอง เพราะทุกอย่างชัดเจนหมดแล้ว พรรคเพื่อไทยไม่ได้ไปเอาแคนดิเดตคนนอก ส่วนใครจะเป็นเบอร์ 1 ต้องดูสถานการณ์ เพราะทั้ง 3 คน ล้วนมีความรู้ ความสามารถในคนละด้าน ซึ่งทั้ง 3 คนพร้อมทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นแคนดิเดตไหน พรรคเพื่อไทยไม่หนักใจ ขอให้สบายใจได้ว่า ถ้าถึงเวลาที่ต้องเสนอ พรรคเพื่อไทยมีเสนอและเข้าไปทำงานในฐานะนายกฯ ได้อย่างแน่นอน แต่เรื่องก็ยังไม่ได้คุยกับ 3 แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย เพราะอยากให้ความสำคัญ กับการเลือกนายพิธา ร่วมกับ 8 พรรคให้สำเร็จก่อน 

ส่วนที่ ส.ว.บางคนกล่าวว่า แม้จะเปลี่ยนแคนดิเดตมาเป็นของเพื่อไทย หากมีก้าวไกลก็ไม่เอานั้น และอาจจะต้องกันกัาวไกลออกไปหรือไม่นั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็เป็นปัจจัยที่ต้องเอามาคิดอีกปัจจัยหนึ่ง แต่ทั้งหมดอยู่ที่การหารือ เพราะการการหารือร่วมกันกับ 8 พรรคเป็นสิ่งสำคัญ เรากอดกันเป็นข้าวต้มมัด ต้องไปด้วยกัน คิดด้วยกัน สิ่งที่พรรคก้าวไกลแสดงออกมา จนตนเองต้องออกมาพูดเพราะกำลังเสนอสิ่งที่เกินเลยจากที่ได้คุยกัน แต่พรรคก้าวไกล ชิงเสนอในสิ่งที่ตนเองคิดโดยไม่ได้สร้างความชัดเจน ว่าเป็นความคิดใคร แต่สิ่งที่เราเสนอ คือความคิดของก้าวไกล ไม่ใช่ความคิดของ 8 พรรคร่วม ส่วนที่หลายคนออกมาบอกว่าเป็นเรื่องดราม่าพระเอกนางเอกนั้น จะจูบกัน นี่คือเรื่องจริง ไม่ใช่ละครทีวี แต่เดิมพัน ด้วยปัญหาของประเทศและประชาชน รวมถึงที่ ชูวิทย์ออกมาบอกว่า เจ้าสาวจะตีชิงจากเจ้าบ่าวนั้น ขออย่าเดาใจ คนในพรรคเพื่อไทย และสิ่งสำคัญที่เราแสดงออกมาตลอดนั้งคือ มุ่งหวังให้ความต้องการของประชาชนประสบความสำเร็จ ที่พรรคเพื่อไทยพิสูจน์ไปแล้วคือ เราเป็นพรรคอันดับ 2 ประเพณีการปกครองที่ผ่านมา พรรคอันดับ 2 ต้องรอการจัดการของพรรคอันดับ 1 หากเขาทำไม่ได้ การที่พรรคเพื่อไทยยอมทิ้งโอกาสของตัวเองเพื่อตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยให้แข็งแรงนั่นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้หวังเข้าสู่อำนาจ จะดราม่าอย่างไรก็ไม่ว่า อยากให้คิดถึงความเป็นจริง ความสามัคคีคือสิ่งสำคัญ ต้องการให้คนที่คิดว่าเป็นประชาธิปไตยช่วยกันทำให้สำเร็จ ไม่ใช่ไปอิงกับพรรคใดพรรคหนึ่ง หรือไปอิงกับความคิดใด ความคิดหนึ่ง

ภูมิธรรม กล่าวอีกว่า รู้ดีว่าสิ่งที่พูดมาทั้งหมด อาจมีปัญหา จะทำให้หลายคนไม่สบายใจ มีรถทัวร์มาลง แต่คิดว่าเรายืนอยู่กับความเป็นจริง วันนี้สิ่งสำคัญที่สุดคืออยากเห็นความเป็นจริง ที่ประสบความสำเร็จ ที่นำมาสู่การแก้ปัญหา แต่ไม่อยากเห็นความเชื่อ ทำให้เกิดเป็นความจริง 

ภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกระแสข่าว ว่าฝั่งรัฐบาลเดิม กว้านซื้อ ส.ส. งูเห่า จากก้าวไกล และเพื่อไทย ประมาณ 50-60 เสียงนั้น ย้ำว่าเป็นเพียงกระแสข่าวลือ หากจริงก็จะเกิดความเสียหาย แต่ทั้งหมดเป็นเพียงข่าวที่รายงานมา ส่วนจะเป็น ส.ส ที่มีอายุที่คิดว่าขอทำงานสภาฯสมัยสุดท้าย รอบหน้าคงหมดโอกาสได้เข้ามา หรือเป็น ส.ส หน้าใหม่ เข้ามาเป็นนักการเมืองได้เพราะกระแส หรือไม่นั้น ได้คุยกับก้าวไกลไปแล้ว ให้ไปตรวจสอบคนของตัวเอง ให้ระวัง ซึ่งทางพรรคเพื่อไทย ได้ย้ำไปยังแกนนำแต่ละภาคแล้วให้ตรวจสอบ และหาทางป้องกัน และยังมั่นใจว่า คนของเพื่อไทย มีสติปัญญา จิตใจมุ่งมั่น ทำตามที่ประชาชนต้องการ