ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาลับหลัง สั่งจำคุกนายทักษิน ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 2 ปี ในคดีหมายเลขดำที่อม.1/2551 ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร ที่ 1 กับพวกรวม 47 คน จำเลย กรณีกล่าวหาเกี่ยวกับการทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (หวยบนดิน) จำเลยที่ 1 หลบหนีไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาคดีครั้งแรก ซึ่งศาลมีคำสั่งให้ออกหมายจับและจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 1 ชั่วคราว

โดยคดีดังกล่าวคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติฟื้นคดีเมื่อปี 2560 โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้สามารถดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปได้จึงมีมติให้ยื่นคำร้องขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณา

ล่าสุดศาลฎีกาฯ อาศัย พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 ซึ่งมาตรา 28 ที่ให้พิจารณาลับหลังจำเลยได้ หากจำเลยไม่มาศาล และสามารถออกหมายจับจำเลยได้ภายใน 3 เดือน โดยศาลสั่งจำคุกนายทักษิณ ชินวัตร 2 ปี จากความผิดมาตรา 157 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต หลังศาลพิเคราะห์ว่า ออกหวยบนดินโดยมิชอบ

อนึ่งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้รับการแต่งตั้งภายหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยา 2549 โดยมีการตรวจสอบและส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป.ป.ช. อาทิ คดีกรุงไทยของนายพานทองแท้ ชินวัตร คดี Exim Bank ปมเงินกู้รัฐบาลเมียนมา 4,000 ล้าน เป็นต้น 

อ่านเพิ่มเติม

• ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองออกหมายจับ 'ทักษิณ' คดีหวยบนดิน
• ย้อนรอยคดี Exim Bank ปล่อยกู้เมียนมา มูลเหตุแห่งการสั่งจำคุก 'ทักษิณ' 3 ปี