นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ และธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2562 จะขยายตัวประมาณร้อยละ 2.5 – 2.6 ใกล้เคียงกับที่หลายฝ่ายได้มีการประเมินไว้ โดยปัจจัยสำคัญที่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยปีนี้คือเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออก
ส่วนในปี 2563 แม้จะยังไม่เห็นปัจจัยบวกรุนแรง แต่ยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่ภาวะฟื้นตัวได้ จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวอยู่ในกรอบร้อยละ 2.7 – 3.6 โดยมีค่ากลางที่ร้อยละ 3.1
ทั้งนี้ประเมินว่าปัจจัยภายในประเทศที่จะส่งผลโดยตรงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะความขัดแย้งทางการเมือง จะยังคงสามารถประคับประคองต่อไปได้อยู่ ซึ่งการเมืองนอกสภา หรือการชุมนุมประท้วงที่อาจจะเกิดขึ้นไม่น่าจะบั่นทอนเศรษฐกิจมากนัก แต่ก็จะส่งผลกระทบให้คนในประเทศชะลอการจับจ่ายใช้สอย ดังนั้นปีหน้าควรจะเป็นปีแห่งการเลือกตั้งท้องถิ่น ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไป เพื่อให้เป็นแรงผลักดันให้คนเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง จะทำให้การเมืองมีเสถียรภาพระดับหนึ่ง
ส่วนจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่ายังไม่มีเหตุผลที่จะต้องปรับ ครม.ชุดใหม่ เนื่องจากเชื่อว่า ครม.ชุดปัจจุบันยังสามารถทำงานได้อยู่ เพราะพึ่งทำงานมาได้เพียง 6 เดือน ขณะที่มาตรการต่างๆ ก็อยู่ระหว่างรอประเมินผลที่จะออกมาอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามหากจะมีการปรับ ครม. ใหม่ขอให้อยู่บนหลักการที่ปรับแล้วจะต้องดีขึ้น โดยเฉพาะในส่วนที่ผัวพันกับเศรษฐกิจของประเทศ