เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2567 ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กรมป่าไม้ จัดกิจกรรมวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชาของทุกปี โดยมี พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธี และผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกิจกรรม พร้อมกับได้ปลูกต้นรวงผึ้ง บริเวณด้านหน้ากรมป่าไม้
พล.ต.อ. พัชรวาท กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2532 อนุมัติให้วันวิสาขบูชาของทุกปีเป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติ และมีการจัดกิจกรรมเป็นประจำทุกปี เพื่อปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนได้เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ โดยรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้มีการปลูกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ให้มีความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มพื้นที่สีเขียว ซึ่งจะก่อให้เกิดความรัก ความหวงแหนทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งเป็นการอนุรักษ์และเพิ่มคุณค่าของพื้นที่ป่าไม้ รวมถึงช่วยป้องกันและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ลดมลภาวะจากฝุ่นและหมอกควัน ช่วยลดภาวะโลกร้อน
โดยเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ในการประชุมคณะรัฐมนตรี จังหวัดเพชรบุรี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบกล้าไม้มหามงคล "ต้นหัวใจเศรษฐี" ให้กับนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีทุกท่าน เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ 2567 ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศ ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและช่วยลดโลกร้อน โดยใช้โอกาสวันสำคัญในวันเดียวกันนี้
ด้าน สุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ในปีนี้กรมป่าไม้จัดกิจกรรมวันต้นไม้ประจำปีของชาติ 2567 พร้อมกันทั่วประเทศ โดยสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ทุกสำนัก และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้สาขาทุกสาขา ยังได้ร่วมกันจัดกิจกรรมวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ปี 2567 ในวันนี้ โดยการจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ร่วมกับประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้กรมป่าไม้ ยังได้เตรียมกล้าไม้เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่สนใจได้นำกลับไปปลูกตามที่อยู่อาศัย วัด โรงเรียน พื้นที่สาธารณประโยชน์ ตามความเหมาะสม โดยสามารถติดต่อขอรับกล้าไม้ได้ที่ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ กรมป่าไม้ ทั่วประเทศ เพื่อร่วมเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูและอนุรักษ์ต้นไม้ให้คงอยู่เป็นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ทรงคุณค่าตลอดไป
ทั้งนี้ ในโอกาสวันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ยกเว้นค่าบริการในการเข้าไปท่องเที่ยวพักผ่อนในวันที่ 22 พ.ค. 2567 สำหรับบุคคลชาวไทยพร้อมยานพาหนะที่เข้าไปใช้บริการในป่านันทนาการ 3 แห่ง ได้แก่ ป่านันทนาการหินสามวาฬ จังหวัดบึงกาฬ ป่านันทนาการน้ำตกเขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรี และป่านันทนาการทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จังหวัดยะลา โดยพื้นที่ป่านันทนาการทั้ง 3 แห่ง จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมจากประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง จึงถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้ขยายตัวเพิ่มยิ่งขึ้น และช่วยส่งเสริมการศึกษาเรียนรู้ทางธรรมชาติให้แก่ประชาชนควบคู่ไปกับการพักผ่อนหย่อนใจในพื้นที่ป่านันทนาการได้อย่างเต็มที่