ไม่พบผลการค้นหา
ผู้นำสหรัฐฯ เดินหน้านโยบาย ‘Buy America’ เตรียมออกมาตรการใหม่ในวันพฤหัสฯ ผ่อนคลายกฎควบคุมการขายอาวุธ กลุ่มสิทธิมนุษยชนหวั่น แพร่ยุทโธปกรณ์ไฮ-เทค ทำพลเรือนล้มตาย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันพุธที่ 17 เมษายนว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเล่นบทเซลส์แมนขายอาวุธให้แก่ภาคอุตสาหกรรม โดยเตรียมผ่อนคลายกฎควบคุมการขายอาวุธ เปิดทางให้ประเทศต่างๆ ซื้อเครื่องบินรบไอพ่น โดรน เรือรบ และปืนใหญ่จากอเมริกาได้ในปริมาณมากขึ้น และมีประสิทธิภาพสูงขึ้น 

แหล่งข่าวในวงการอาวุธเผยกับรอยเตอร์ว่า มาตรการใหม่นี้จะประกาศในวันพฤหัสบดี ซึ่งจะช่วยให้ประเทศลูกค้าได้รับอนุมัติการขายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ไม่ต้องรอนานหลายปีอย่างที่เป็นอยู่

นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวจะกำหนดให้รัฐมนตรีกลาโหม รัฐมนตรีพาณิชย์ ทำหน้าที่เป็น “นักปิดดีล” รวมทั้งจะมีการส่งทูตทหาร นักการทูต ออกไปหาลูกค้าตามงานมหกรรมแสดงอากาศยานและตลาดอาวุธยุทโธปกรณ์ทั่วโลกด้วย เช่น งานแสดงในฝรั่งเศส อิสราเอล

หลังข่าวนี้แพร่สะพัด ราคาหุ้นของบรรดาบริษัทผลิตอาวุธชั้นนำพากันดีดตัวรับข่าวดี ขณะที่หุ้นของบริษัทเรย์เธียนพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์

อย่างไรก็ตาม กลุ่มสิทธิมนุษยชนและหน่วยงานรณรงค์ด้านการควบคุมอาวุธเตือนว่า การแพร่กระจายอาวุธไฮ-เทคอาจเพิ่มความเสี่ยงที่อาวุธเหล่านั้นจะตกไปอยู่ในมือของบุคคลไม่พึงประสงค์ และโหมกระพือเหตุรุนแรงในภูมิภาคต่างๆ เช่น ตะวันออกกลาง เอเชียใต้

รัฐบาลทรัมป์ชี้แจงว่า มาตรการดังกล่าวต้องการช่วยเหลือบริษัทอาวุธอเมริกันให้สามารถแข่งขันกับผู้ผลิตอาวุธรายอื่นได้ เช่น จีน รัสเซีย เพื่อสร้างงานให้แก่ชาวอเมริกันในประเทศ

เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลทรัมป์ผู้หนึ่งบอกว่า มาตรการนี้มุ่งผ่อนคลายข้อพิจารณาในเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งบางครั้งเป็นการปิดทางที่จะได้ขายอาวุธ

แหล่งข่าวบอกว่า มาตรการดังกล่าวต้องการเร่งรัดการบรรลุข้อตกลงขายอาวุธให้กับสมาชิกนาโต ซาอุดีอาระเบีย ประเทศในอ่าวเปอร์เซีย รวมถึงพันธมิตรตามสนธิสัญญาของสหรัฐฯ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้

บริษัทที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการนี้คือ โบอิง ล็อกฮีดมาร์ติน เรย์เธียน เจนเนอรัลไดนามิกส์ และนอร์ธรอป กรัมแมน

รัฐบาลทรัมป์ต้องการยกเครื่องนโยบายการถ่ายโอนอาวุธตามแบบ (Conventional Arms Transfer policy) ซึ่งเป็นกรอบที่ใช้ควบคุมการขายอาวุธที่ประกาศในสมัยของบารัก โอบามาเมื่อปี 2014

ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ตกลงขายอาวุธที่โอบามาเคยยับยั้งแล้วหลายครั้ง เช่น ขายจรวดความแม่นยำสูง มูลค่า 7,000 ล้านดอลลาร์ฯให้แก่ซาอุดีอาระเบีย กลุ่มสิทธิมนุษยชนบอกว่า อาวุธเหล่านั้นถูกนำไปใช้ในสงครามกลางเมืองของเยเมนภายใต้ปฏิบัติการที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ทำให้พลเรือนบาดเจ็บล้มตาย.

Source : Reuters

Image: US. Air Force via Wikimedia Commons

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: