ไม่พบผลการค้นหา
รพ.สวนสราญรมย์ จ.สุราษฎร์ธานี พบผู้ป่วยจิตเวชที่พักรักษาตัวร้อยละ 40 เกิดจากการใช้สารเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าและเหล้า แนวโน้มเพิ่มขึ้น ในปี 2560 พบกว่า 9,000 คน ส่วนใหญ่เป็นโรคจิตเภท และใช้ยามากกว่า 1 ชนิด พลิกโฉมการดูแลฟื้นฟูสมอง จิตใจ สังคมและอาชีพในระดับพรีเมียม ดีที่สุดในอาเซียน

นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ว่า จากการตรวจเยี่ยมโรงพยาบาล (รพ.) สวนสราญรมย์ จ.สุราษฎร์ธานี  ซึ่งเป็นศูนย์เชี่ยวชาญรักษาผู้ป่วยโรคทางจิตเวชทุกชนิดทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ประจำเขตสุขภาพที่ 11 ใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ได้รับรายงานว่า ผู้ป่วยจิตเวชที่พักรักษาในรพ.สวนสราญรมย์ที่มีวันละประมาณ 350 คน ร้อยละ 40 เกิดมาจากการใช้สารเสพติด ที่พบมากได้แก่ยาบ้าและเหล้า เพิ่มขึ้นจากช่วง 5 ปีก่อนประมาณ 2 เท่าตัว ร้อยละ 95 เป็นผู้ชาย ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นและวัยทำงาน และยังมีผู้ป่วยส่วนหนึ่งส่งมาจากกรมควบคุมประพฤติ เป็นผู้ป่วย พ.ร.บ.ยาเสพติด ที่มีอาการทางจิตเช่นก้าวร้าว หูแว่ว ประสาทหลอน หลงผิด ส่งตัวเข้ามาบำบัดด้วย 

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า รพ.สวนสราญรมย์ได้จัดระบบบริการฟื้นฟูด้านสมอง จิตใจ และด้านสังคมให้ผู้ป่วยยาเสพติดที่ผ่านการบำบัดในระยะถอนพิษยาที่อาการทางจิตอยู่ในภาวะสงบ รับรู้ตนเองดีขึ้นแล้ว เพื่อให้กลับคืนมาสู่สภาพที่เป็นปกติที่สุด โดยใช้กระบวนการชุมชนบำบัดให้การดูแลแบบโฮมสเตย์ ( home stay model) สถานที่พักฟื้นเป็นบ้านพัก 2 ชั้น คล้ายรีสอร์ท ร่มรื่น เป็นธรรมชาติ อิสระ มีทั้งหมด 9 หลัง หลังละ 10 เตียง  ให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตร่วมกันในชุมชนจำลอง ทุกคนมีส่วนร่วมในวิถีชีวิตเสมือนเป็นบ้านของตนเอง เพื่อฝึกให้ผู้ป่วยมีความรับผิดชอบ มีแบบแผนการดำเนินชีวิตที่เหมาะสม ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในชุมชนอย่างมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี นับว่าเป็นการบำบัดฟื้นฟูที่อยู่ในระดับพรีเมี่ยมแห่งเดียวในประเทศ นับว่าดีที่สุดในอาเซียนก็ว่าได้   

ในการฟื้นฟู ฝึกอาชีพให้กับผู้ป่วย จะเน้นตามความสามารถของผู้ป่วยและทุกคนจะได้รับการฝึกสติและสมาธิจากทีมสหวิชาชีพ เพื่อป้องกันการกลับไปใช้สารเสพติดซ้ำ  ใช้เวลารักษาฟื้นฟู 4 เดือน จากการติดตามผลพบว่าผู้ป่วยที่กลับไปอยู่กับครอบครัวในชุมชนร้อยละ  60-70 สามารถเลิกเสพยาได้ มีงานทำ มีอาชีพและมีรายได้ต่อเนื่อง พร้อมที่โชว์ผลงานของรพ.สวนสราญรมย์ ให้เป็นแหล่งศึกษาดูงานทั้งในและต่างประเทศ จากการไปร่วมประชุมยาเสพติดโลกประจำปี 2561 ที่กรุงเวียนนาประเทศออสเตรีย ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการทั้งด้านการแพทย์ ด้านสังคม และกฎหมาย จาก 185 ประเทศทั่วโลกเข้าประชุมประมาณ 1,500 คน มีหลายประเทศสนใจจะมาศึกษาดูงานของไทย เนื่องจากไทยมีมาตรฐานฟื้นฟูและประสบผลสำเร็จสูง ผู้ผ่านการบำบัดแล้วไม่หันกลับไปเสพยาซ้ำอีกสูงกว่าร้อยละ 85  

ทางด้านนายแพทย์จุมภฎ พรมสีดา ผู้อำนวยการรพ.สวนสราญรมย์ กล่าวว่า  โรคจิตเวชที่พบได้บ่อยในผู้ที่ใช้ยาเสพติดคือ โรคจิตเภท พบได้ร้อยละ 70 รองลงมาคือโรคซึมเศร้าและโรคบุคลิกผิดปกติแบบต่อต้านสังคม ก้าวร้าว ทำร้ายคนอื่นพบได้ประมาณร้อยละ 30 ในปี 2560 มีผู้ป่วยสารเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษาที่รพ.สวนสราญรมย์ 9,096 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่มี 6,660 คน ส่วนใหญ่ใช้สารเสพติดหลายชนิดร่วมกัน เช่นใช้กระท่อมกับยาบ้า กัญชากับยาบ้า ร้อยละ 70 มีอายุอยู่ในช่วง 18-25 ปี น้อยสุด 8 ปีจากการใช้สารระเหยในการบำบัดฟื้นฟูฯผู้ป่วยยาเสพติด

ขณะนี้มีบ้านพักทั้งหมด 9 หลัง รับได้ 60 คน มีพยาบาลดูแลตลอด24 ชั่วโมง  และมีระบบการติดตามผลการรักษาหลังจำหน่าย 1 ปี การบำบัดฟื้นฟูฯจะครอบคลุมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม จิตวิญญาณ รวมทั้งด้านอาชีพ การใช้เวลาที่เกิดประโยชน์ และมีรายได้ เพื่อสร้างความมั่นใจ ความภาคภูมิใจให้ผู้ป่วย  เนื่องจากผู้ที่ติดยาเสพติดส่วนใหญ่มักจะขาดโอกาสในการประกอบอาชีพ ประการสำคัญได้ให้ครอบครัวซึ่งมีส่วนสำคัญที่สุดในการให้กำลังใจผู้ป่วยเลิกเสพยาอย่างถาวร เข้ามามีส่วนร่วมในการทำครอบครัวบำบัดประมาณ 7-8 ครั้ง ระหว่างที่ผู้ป่วยบำบัดรักษา  โดยให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องปัญหายาเสพติดรวมทั้งผลกระทบและแบบแผนการดำเนินชีวิตหลังผ่านการบำบัด 

สำหรับในกลุ่มของผู้ป่วย ได้เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้ระดมสมองและร่วมกันตั้งกฎเหล็ก 6 ข้อที่ทุกคนต้องเคร่งครัดปฏิบัติตามในการใช้ชีวิตร่วมกัน คือ

  • ไม่ใช้สารเสพติดทุกชนิด
  • ไม่ทะเลาะวิวาท 
  • ไม่มีเพศสัมพันธ์
  • ห้ามลักขโมย 
  • ไม่ออกนอกสถานบำบัด
  • พัฒนาตนเองให้ดีขึ้น 

โดยทุกเช้าจะมีการฝึกสติ หลังเคารพธงชาติ และก่อนนอนทุกวัน  และฝึกทำสมาธิขณะทำกิจกรรมกลุ่มทุกประเภท  สวดมนต์ทุกวันพระใหญ่ ซึ่งจะให้ผลในด้านการสร้างพลังความเข้มแข็งจิตใจ  การดำเนินชีวิตอย่างมีสติ  

ทั้งนี้แผนดำเนินการต่อไป รพ.จะสร้างอาชีพให้ผู้ผ่านการบำบัดที่ยังไม่มีอาชีพและส่งฝึกงานในสถานประกอบการต่างๆ ใน จ.สุราษฎร์ธานีและใกล้เคียงด้วย