คุณภาพชีวิต
วังวน 'ดราม่า' ประจำเมษาฯ ว่าด้วยการ 'ยกเลิกเกณฑ์ทหาร'
เริ่มแล้ววันแรกของฤดูกาลคัดเลือกทหารกองประจำการ ประจำปี 2561 ตั้งแต่วันที่ 1-12 เมษายน ชายไทยทั่วประเทศจำนวน 356,978 คน เตรียมตบเท้าเข้ารายงานตัวกันอย่างคึกคัก โดยในปีนี้เป็นคิวของผู้ที่เกิดในปี 2540 และ 2539 ที่มีอายุครบ 21 ปี บริบูรณ์ รวมถึงผู้เกิด ปี 2532 ที่ยังไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือก
หากมองย้อนไปกลับไปในห้วงปี 2557 จนถึงปัจจุบันพบว่ากองทัพไทยมีการเพิ่มจำนวนยอดรับทหารเข้าประจำการเกือบทุกปี มีเพียงปี 2558 ที่ลดจำนวนจาก 100,865 คน เหลือ 99,373 คน แต่ในปีถัดไปก็มีการปรับจำนวนเพิ่ม ซึ่งปี 2561 คือปีที่มีการคัดเลือกเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์
-ปี2557 คัดเลือก 100,865 คน สมัคร 33,644 คน
-ปี 2558 คัดเลือก 99,373 คน สมัคร 43,446 คน
-ปี 2559 คัดเลือก 101,307 คน สมัคร 47,172 คน
-ปี 2560 คัดเลือก 103,097 คน สมัคร 50,580 คน
-ปี 2561 คัดเลือก 104,734 คน
ในส่วนของกองทัพพล.อ.วีรชัย อินทุโศภน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก(ผช.ผบ.ทบ.) ก็ได้ออกมาแถลงให้ความมั่นใจว่า ทางกองทัพพร้อมดูแลพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์การเสียชีวิตระหว่างเข้ารับการฝึก ขณะที่สิทธิกำลังพลที่จะได้รับการันตีที่ 10,000 ต่อเดือน นอกเหนือจากนี้หากปฏิบัติงานนอกที่ตั้งจะเพิ่มเป็น120 บาท หรือคนที่ปฏิบัติราชการสนามปฏิบัติงานด้านความมั่นคง เพิ่มเป็น 200 บาท
โซเชียลเสนอยกเลิก 'เกณฑ์ทหาร' หนุนโมเดลเปิดรับผู้สมัครใจ
แน่นอนว่าในระยะ 5-6 ปีให้หลัง กระแสต่อต้านหรือให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารเริ่มมีมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่โซเชียลมีเดีย มักจะหยิบยกกรณีดังกล่าวมาถกเถียงกันอยู่เสมอ ทั้งวิจารณ์การสิ้นเปลืองงบประมาณจำนวนกว่าปีละหมื่นล้าน หรือการถูกละเมิดในค่ายทหารจนบางรายเสียชีวิต กลายเป็นข่าวทั้งในสื่อกระแสหลักและสื่อทางเลือก รวมถึงข้อเสนอให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นรูปแบบสมัครใจ ซึ่งก็มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จนกลายเป็นดราม่าต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ดังเช่นทุกปี
เมื่อวาทกรรมเป็น 'ทหารรับใช้ชาติ' เริ่มถูกตั้งคำถามสอดรับกับเทคโลยีการสื่อสารในยุคศตวรรษที่ 21 ส่งผลให้มีการออกมาเรียกร้องและถกเถียงกันมากขึ้นในพื้นที่เปิด ทั้งเรื่องราวที่น่าฉงนใจในการใช้งบประมาณของกองทัพ จนเกิดเป็นกระแสต่อต้าน ที่ถูกปลุกขึ้นมาและพร้อมตั้งคำถามถามกลับว่าแก่นแท้ของความ 'รับใช้ชาติ' คืออะไร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
