นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เผยการยืนยันสมาชิกพรรคประสบปัญหาสำคัญ เนื่องจากประชาชนยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องจ่ายเงินค่าบำรุงพรรค ทั้งที่การมีส่วนร่วมและสนับสนุนพรรคการเมืองทำได้หลายวิธี ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดี ประชาชนบางกลุ่มยังมีปัญหาเรื่องปากท้อง ดังนั้นการจ่ายเงินค่าบำรุงพรรค 100 บาทก็สร้างภาระ ดังนั้นหลายคนที่ไม่มีความประสงค์จะจ่ายเงินค่าบำรุงพรรค ก็ไม่สามารถยืนยันสมาชิกพรรคได้ ประกอบกับคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 53/2560 ที่กำหนดให้การยืนยันสมาชิกพรรค และจ่ายเงินค่าบำรุงพรรคต้องทำภายใน 30 เมษายน มิฉะนั้นจะพ้นสภาพสมาชิกพรรค ซึ่งเป็นระยะเวลาที่สั้นมาก และไม่เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคถึงความสำคัญของการจ่ายเงินค่าบำรุงพรรคฯ ทั้งที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองให้สมาชิกพรรคให้เวลาสมาชิกในการจ่ายค่าบำรุงพรรคภายใน 4 ปี ตั้งแต่กฎหมายลูกบังคับใช้ หากไม่จ่ายภายใน 4 ปีจึงจะพ้นสภาพสมาชิกพรรค ซึ่งพรรคจะมีเวลาทำความเข้าใจกับประชาชนได้มากกว่าตอนนี้ ขณะเดียวกันการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองก็เสียสิทธิ์หลายอย่าง เช่น การเข้าทำงานในบางสถานที่ ซึ่งสวนทางกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง
ดังนั้นคำสั่ง คสช. ฉบับนี้จึงถือเป็นการเซ็ตซีโร่พรรคการเมือง และอาจมองได้ว่าเป็นเกมส์การเมืองของ คสช. ที่ต้องการจะวางกับดักพรรคการเมืองเก่า และเปิดทางให้พรรคการเมืองใหม่ดึงสมาชิกพรรคการเมืองเก่าที่ไม่ได้ยืนยันสมาชิกภายใน 30 เมษยายนนี้ เข้าร่วมพรรคได้ สอดคล้องกับกระแสการจัดตั้งพรรค คสช. โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พอดี
อย่างไรก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์ตอนนี้ไม่สามารถทำอะไรได้มาก และไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามข้อกฎหมายให้ดีที่สุด และรอผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าคำสั่งที่ 53/2560 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งหัวหน้าพรรคก็ได้ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินไปตั้งแต่เดือนมกราคมแล้ว
ทั้งนี้ นาวาตรี สุธรรม ระหงษ์ ผู้อำนวยการพรรคประชาธิปัตย์ ให้ข้อมูลว่า จำนวนสมาชิกที่ยืนยันแล้วตอนนี้ยังไม่ถึงครึ่ง เพราะขณะนี้มีสมาชิกพรรคที่รายงานตัวแล้วเพียงหลักหมื่นคน จากสมาชิกเดิมทั้งหมด 2.5 ล้านคน แต่คาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้จะมียอดกสมาชิกที่ยืนยันสถานะเพิ่มจากสาขาพรรคกว่า 300 สาขาทั่วประเทศ และคาดว่าจะทราบยอดสมาชิกพรรคทั้งหมดได้ภายในต้นเดือนพฤษภาคม
ส่วนกรณีที่ นายชื่นชอบ คงอุดม อดีต ส.ส. กรุงเทพมหานคร แจ้งลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์เพื่อไปร่วมงานกับพรรคพลังท้องถิ่นไท ที่พ่อ คือ นายชัชวาลย์ คงอุดม หรือ ชัช เตาปูน เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง
นายองอาจ เปิดเผยว่า นายชื่นชอบได้มาร่ำลาตนตั้งแต่เดือนมกราคมแล้ว ถือเป็นการจากกันด้วยดี ตนเคารพในสิทธิ์ของทุกคน และอวยพรให้นายชื่นชอบ ประสบความสำเร็จทางการเมือง แม้ในอนาคตจะต้องมาเป็นคู่แข่งกันทางการเมือง แต่ไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ยังคงเป็นพี่น้องกันเช่นเดิม
ส่วนนายชื่นชอบ และพรรคของนายชัชวาลย์ จะถูกดูดเป็นกองหนุนของพรรค คสช. ในอนาคต หรือไม่ตนไม่ได้คุยกับนายชื่นชอบเรื่องนี้ แต่ยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณจากสมาชิกคนไหนว่าจะลาออกเพิ่มเติมอีก คงจะต้องดูช่วงใกล้เลือกตั้งว่าจะมีใครลาออกอีกหรือไม่
อย่างไรก็ตามการที่อดีต ส.ส. ซึ่งทำงานดี และอยู่ในพื้นที่มานาน อย่าง นายสกลธี ภัททิยกุล และนายชื่นชอบ คงอุดม ลาออกไปกระทบต่อการทำงานของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างแน่นอน เพราะพรรคก็ต้องสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่ แต่ยังเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อคะแนนเสียงในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคมากนัก