ไม่พบผลการค้นหา
ก.พาณิชย์ แจงเดินหน้ามาตรการแก้ไขปัญหาราคาสับปะรดตกต่ำทั้งระยะสั้นและระยาว

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตลอดช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2561 ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตสับปะรดออกสู่ตลาดมากเกินความต้องการของโรงงานแปรรูป เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากราคาสับปะรดที่เกษตรกรขายได้อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง เป็นเพราะปีนี้ดินฟ้าอากาศเอื้ออำนวยให้ผลผลิตสับปะรดเพิ่ม และประกอบกับสองสามปีที่ผ่านมาสับปะรดมีราคาสูงทำให้มีการขยายพื้นที่ปลูกกันมากขึ้นด้วย ทำให้เกิดภาวะล้นตลาด เนื่องจากผลผลิตร้อยละ 90 พึ่งพาโรงงานแปรรูปเพื่อส่งออกตลาดต่างประเทศ ในขณะที่กำลังการผลิตของโรงงานแปรรูปคงเดิม

ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์จึงได้ดำเนินมาตรการการแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะสั้น กระทรวงพาณิชย์ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาและแก้ไขปัญหาด้านการตลาดและการส่งออกสับปะรด ได้มีการประชุมเพื่อวางมาตรการช่วยเหลือแล้ว 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2561 และวันที่ 12 มิถุนายน 2561 ซึ่งได้มีมติให้ดำเนินมาตรการต่างๆ ได้แก่ มาตรการนำสับปะรดส่วนเกินออกจากระบบ โดยการกระจายสับปะรดออกนอกแหล่งผลิตสำหรับบริโภคผลสด และนำไปทำอาหารสัตว์เลี้ยงโคนมโคเนื้อ รณรงค์บริโภคสับปะรดโดยอาศัยเครือข่ายประชารัฐ และการเร่งรัดขยายตลาดส่งออกไปต่างประเทศให้มากขึ้น 

นอกจากนี้ กรมการค้าภายในได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยได้สนับสนุนให้มีการเชื่อมโยงและกระจายผลผลิตสับปะรดผลสดออกจากแหล่งผลิต และได้สนับสนุนงบประมาณรวม 1,285,000 บาท ให้จังหวัด ระยอง ชลบุรี เชียงราย อุทัยธานี พิษณุโลก ลำปาง ประจวบคีรีขันธ์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายรวบรวมผลผลิต คัดคุณภาพ และกระจายไปจังหวัดปลายทางนอกแหล่งผลิต รวมปริมาณกว่า 2,000 ตัน และได้ประสานงานภาครัฐและภาคเอกชนให้ช่วยรับซื้อสับปะรดจากเกษตรกร ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้รับซื้อสับปะรดผลสดแจกให้กับผู้ที่มารับบริการที่สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงกว่า 70 สาขาทั่วประเทศรวมปริมาณกว่า 890 ตัน และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับซื้อสับปะรดสด 460 ตัน เพื่อนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เตรียมไว้สำหรับสมนาคุณลูกค้าที่มาใช้บริการสถานีน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้ง ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เช่น ห้าง Lotus, BigC, makro, The Mall, Tops ได้ร่วมลงนาม MOU กับกรมการค้าภายในในการช่วยรับซื้อสับปะรดจากเกษตรกรโดยตรง ปริมาณรวม 2,820 ตัน

อีกทั้ง สำนักงานพาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ประสานกรมปศุสัตว์และผู้ประกอบการฟาร์มปศุสัตว์ นำสับปะรดใช้เป็นอาหารสัตว์เลี้ยงโคนมโคเนื้อ รวมแล้วกว่า 1,800 ตัน โดยกรมการค้าภายในได้สนับสนุนงบประมาณให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ วงเงิน 500,000 บาท ดำเนินการใช้รวบรวมสับปะรดเพื่อเป็นอาหารเลี้ยงโคเนื้อโคนม ปริมาณ 500 ตัน และกระทรวงมหาดไทยได้ประสานให้จังหวัดที่ไม่ได้เป็นแหล่งเพาะปลูกสับปะรดร่วมมือช่วยรับซื้อสับปะรดจากจังหวัดที่เป็นแหล่งเพาะปลูกเพื่อไปจำหน่ายในพื้นที่ด้วย นอกจากนี้ สมาคมโรงแรมและร้านอาหารประสานให้สมาชิกเพิ่มปริมาณการเสิร์ฟให้มากขึ้นในรายการบุฟเฟต์ของโรงแรม และทำเมนูอาหารที่มีส่วนประกอบจากสับปะรดเป็นเมนูพิเศษบริการลูกค้าและนักท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มปริมาณการบริโภคสับปะรดอีกด้วย 

อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะยาว เมื่อเข้าสู่เดือนกรกฎาคม 2561 คาดว่าผลผลิตและระดับราคาขายสับปะรดจะเริ่มค่อยๆ คลี่คลายกลับสู่ภาวะปกติ ดังนั้น การผลิตสับปะรดในรอบถัดไป หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรให้คำแนะนำและทำความเข้าใจกับเกษตรกรในการวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับแนวโน้มความต้องการของตลาด โดยส่งเสริมให้มีการทำสัญญาข้อตกลงกับโรงงานแปรรูปด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องตลาดให้แก่เกษตรกร